เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงสัมปทาน พ.ศ. ….. ตามที่กระทรวงการคมนาคม (คค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ พร้อมกันนี้ให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

ทั้งนี้ สศช. มีความเห็นเพิ่มเติมว่า กรมทางหลวง (ทล.) ควรประสานผู้ได้รับสัมปทานจัดให้มีเครื่องหมายจราจรการติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนในเส้นทางช่วงที่กำหนดความเร็วตามร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงสัมปทาน พ.ศ. …. นอกจากนี้ ทล. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ควรติดตาม และประเมินผลการบังคับใช้กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ. 2564 ในส่วนของเส้นทางนำร่องด้วย

นางรัดเกล้า กล่าวต่อว่า สำหรับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย 1. กำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงสัมปทานหมายเลข 31 สายทางยกระดับดินแดง-อนุสรณ์สถาน หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ตามประเภทของยานพาหนะ ดังนี้ 1.1 รถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม หรือรถบรรทุกคนโดยสารที่มีที่นั่งคนโดยสารเกิน 15 คน ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง (ชม.) ปัจจุบันใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 60 กม.ต่อ ชม.1.2 รถขณะที่ลากจูงรถอื่น หรือรถยนต์สี่ล้อเล็ก ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 65 กม.ต่อ ชม. ปัจจุบันใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 45 กม.ต่อ ชม.

1.3 รถโรงเรียน หรือรถรับส่งนักเรียน ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 80 กม.ต่อ ชม. ปัจจุบันใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 60 กม.ต่อ ชม. และ 1.4 รถอื่นๆ อาทิ รถเก๋ง รถกระบะ ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 100 กม.ต่อ ชม. ปัจจุบันใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 80 กม.ต่อ ชม. และ 2. กำหนดให้รถที่อยู่ในช่องเดินรถช่องขวาสุด ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 90 กม.ต่อ ชม. เว้นแต่กรณีช่องเดินรถนั้นมีข้อจำกัดด้านการจราจร หรือทัศนวิสัย มีสิ่งกีดขวาง หรือมีเหตุขัดข้องอื่น ซึ่งปัจจุบันไม่มีกำหนดไว้ในกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ. 2564

ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์ รายงานว่า ปัจจุบันบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศใช้อัตราความเร็วบนดอนเมืองโทลล์เวย์สำหรับรถยนต์ไม่เกิน 80 กม.ต่อ ชม. ซึ่งเมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้รถยนต์สามารถใช้ความเร็วได้เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องไม่เกิน 100 กม.ต่อ ชม. ขณะเดียวกันรถที่เดินรถในช่องขวาสุด จะต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 90 กม.ต่อ ชม. ด้วย จากเดิมที่ไม่มีการบังคับ.