ความเคลื่อนไหวการจัดกิจกรรมนำกีฬา “มวยไทย” ไปโชว์แข่งขันเสมือนจริงช่วงการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ภายใต้การผลักดันของ สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) นำโดย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธาน IFMA, สเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาธิการ IFMA ร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติฝรั่งเศส และ “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดังของโลก
โดยกิจกรรมดังกล่าว นอกจากการแข่งขันโชว์มวยไทยเสมือนจริงแล้ว ยังทำการโปรโมตมวยไทย การแสดงปี่กลองมวยไทย การไหว้ครู ตามศิลปวัฒนธรรมมวยไทยที่ถูกต้องให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่จากชาติต่างๆ ได้รับรู้ถึงศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบันไดก้าวสำคัญสานความฝันของคนไทยในการผลักดันกีฬา “มวยไทย” ให้ได้รับการบรรจุแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ต่อไปในอนาคต
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เป็นวันเปิดกิจกรรมโชว์มวยไทย อย่างเป็นทางการ วันแรก ที่คลับฟรานซ์ กรุงปารีส โดยมี พันโท หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล พร้อมด้วยผู้บริหาร IFMA, บัวขาว บัญชาเมฆ, ร.ท.ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการของบัวขาว, ทีมมวยโบราณ นำโดย “ครูดิน” นายวิทวัส ค้าสม ผู้ก่อตั้งลานนา ไฟต์ติ้ง, ทีมปี่กลอง นำโดยนายแนววิทย์ นิยมวงษ์ ท่ามกลางชาวต่างชาติจำนวนมากที่เข้าร่วมกิจกรรมที่คลับ ฟรานซ์ ซึ่งเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2024 จัดพื้นที่แฟนโซนขนาดใหญ่ให้แฟนกีฬาจากทั่วโลกมาพักผ่อน ทานอาหาร ชอปปิง ทำกิจกรรมกีฬา ฝึกกีฬา และโชว์ศิลปวัฒนธรรมของทุกชาติ
บรรยากาศที่เวทีมวยไทย ภายในคลับ ฟรานซ์ เป็นไปอย่างคึกคัก แฟนกีฬาจากทั่วโลกร่วมชมการแสดงมวยโบราณ พร้อมกับปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของศิลปะแม่ไม้มวยไทย ขณะเดียวกันแฟนกีฬาต่างชาติ ต่างตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของ บัวขาว บัญชาเมฆ เข้ามาถ่ายรูปคู่กับยอดนักมวยไทยกันอย่างต่อเนื่อง
การนำมวยไทยมาโชว์แข่งขันเสมือนจริง ระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 นับเป็นความสำเร็จของ IFMA หลังจากทำงานผลักดันอย่างหนักมาตลอด 31 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสหพันธ์ โดยเมื่อโอลิมปิก 2020 ครั้งก่อนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กีฬามวยไทยได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ให้เป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่ไอโอซีจะหยิบไปพิจารณาบรรจุแข่งขันอย่างเป็นทางการในอนาคต ซึ่งโอลิมปิก 2024 ถือเป็นหมุดหมายที่ดีที่ IFMA ได้รับอนุญาตให้มาร่วมกิจกรรมโชว์แข่งขันมวยไทยเสมือนจริงที่คลับ ฟรานซ์ กรุงปารีส ภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่าง IFMA, กระทรวงการต่างประเทศ, สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงปารีส เพื่อให้ชาวต่างชาติได้ประจักษ์กันทั่วโลกว่ากีฬามวยไทยก้าวเดินมาอย่างมั่นคงบนเส้นทางสู่โอลิมปิกเกมส์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นแสดงโชว์ไหว้ครู ได้รับเสียงตะโกนเชียร์ และปรบมือจากชาวต่างชาติจำนวนมาก
บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวหลังทำการแสดงโชว์ไหว้ครูมวยไทย ว่า ความรู้สึกของตัวเองในการเห็นมวยไทยมาต่อยที่โอลิมปิกเกมส์ ถึงตอนนี้ถือว่าสุดยอดในอาชีพ วันนี้ตนได้เป็นตัวแทนของนักมวยไทย หรือว่าเป็นตัวแทนของศิลปะประจำชาติไทย ที่ได้นำมาเผยแพร่ เรามาโชว์ในระดับที่สุดยอดของกีฬาอย่างโอลิมปิกเกมส์ เป็นครั้งแรกของตัวเองที่ได้มายืนในบรรยากาศของโอลิมปิก และได้นำศิลปะของไทยเรามาโชว์มันเป็นบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม ถ้าหากอนาคตมวยไทยได้บรรจุแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์อย่างแท้จริง มันเป็นความภาคภูมิใจอย่างแท้จริง ที่ได้นำกีฬามวยไทยมาให้คนทั่วโลกได้ยอมรับ
บัวขาว กล่าวต่อว่า อีกบทบาทหนึ่งของตัวเองในการทำงานร่วมกับ IFMA คือ การได้เป็นทูตวัฒนธรรมมวยไทย ตนรู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจที่ได้นำศิลปะแม่ไม้มวยไทยมาโชว์ให้ทุกชาติได้รับรู้ แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นนักกีฬามาด้วย ลุ้นอย่างมากที่อยากจะเห็นมวยไทยได้รับการบรรจุชิงชัยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์จริงๆ ถ้าถึงวันนั้นจริง จะเป็นสิ่งที่ตัวเองภาคภูมิใจอย่างสูงสุด
“ฝากถึงน้องๆ เยาวชนที่กำลังฝึกมวยไทยอยากให้ฝึกมวยไทยที่แท้จริง ในอีกไม่นานอาจจะเป็นตัวแทนทีมชาติไทยมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ อยากให้ทุกคนช่วยกันเชียร์ ถ้าเกิดไม่มีการจำกัดอายุในโอลิมปิกเกมส์ แน่นอนว่า ผมพร้อมที่จะมาแข่งขันด้วย หรือว่ามาไหว้ครูโชว์ หรือว่ามาโชว์ศิลปะท่ารำต่างๆ ผมเองก็อยากมาร่วมโอลิมปิกเกมส์ สักครั้ง” บัวขาว กล่าว
จากนั้นเข้าสู่การแข่งขันมวยไทย 10 คู่ ภายใต้กติกาที่ IFMA รับรอง ซึ่งคู่ไฮไลต์ของแฟนมวยชาวไทย คือ รุ่น 48 กก. “โดมทอง ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” ศุภณัฐ เพชรรักษ์ ดวลกับ โมห์ด ริฟฟาดีน บิน มาสดอร์ นักมวยไทยชื่อดังของมาเลเซีย ปรากฏว่า คู่นี้กินกันไม่ลง จึงเสมอกันไป พร้อมกับรับเหรียญรางวัลและมาสคอตประจำการแข่งขันเป็นที่ระลึก.