เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายณรงค์ แซ่โค้ว อายุ 54 ปี เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจำนวน 120 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม นำแรงงานล้อมจับปลาหมอคางดำเพื่อล้างบ่อเตรียมฤดูการเลี้ยงสัตว์น้ำรอบใหม่ หลังจาก 6 เดือนที่ผ่านมา ได้เลี้ยงสัตว์น้ำกุ้ง หอย ปู ปลา และจับขึ้นมาจำหน่ายไปแล้ว ซึ่งวันนี้ได้ปลาหมอคางดำมากถึง 3-4 ตัน มีผู้มารับซื้อถึงที่ คือบริษัทเอกชนที่จะนำไปทำปลาป่น (อาหารสัตว์) ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล

นายณรงค์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเช่าพื้นที่ 120 ไร่ เลี้ยงกุ้งหอยปูปลาด้วยวิธีธรรมชาติ คือสูบน้ำจากธรรมชาติเอาลูกกุ้ง หอย ปู ปลาเข้ามาเลี้ยง เสียค่าเช่าที่ประมาณปีละ 80,000 บาท ใช้เวลา 6 เดือน ลงทุนแต่ละรอบกว่า 20,000 บาท แต่ 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปลาหมอคางดำระบาดหนัก จาก 6 เดือน เคยได้รับเงินเป็นแสน ตอนนี้เหลือแค่รอบละ 20,000 บาท นอกจากนี้ยังมีต้นทุนจับปลาหมอคางดำเพิ่มขึ้นมา ทั้งค่าแรงงาน ค่ากากชา เพราะพื้นที่ 120 ไร่ ต้องใช้กากชามากถึง 40 ถุง ถุงละ 200 รวมเป็นเงิน 8,000 บาท ยังไม่รวมค่าแรงงานจับปลา ที่สำคัญต่อให้จับปลาหมอคางดำขึ้นจากบ่อก็ยังมีไข่หลงเหลืออยู่ พอเปิดน้ำเข้าบ่อรอบใหม่ ลูกปลาก็เกิดใหม่ แถมยังมีที่เล็ดลอดจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่สูบเข้าบ่อติดมาด้วย

เมื่อถามว่า เห็นด้วยไหมกับมาตรการรับซื้อปลาหมอคางดำกิโลกรัมละ 15 บาท นายณรงค์ กล่าวว่า เห็นด้วย เพราะถ้ารับซื้อกิโลกรัมละ 15 บาท อย่างวันนี้บ่อตนได้ประมาณ 3-4 ตัน หรือประมาณ 3,000-4,000 กิโลกรัม ก็มีบริษัทเอกชนมาซื้อไปทำปลาป่น (อาหารสัตว์) ได้เงินประมาณ 40,000-60,000 บาท พอจะเอาเงินไปทำทุนหมุนเวียนได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ถามว่าตั้งแต่มีปัญหาปลาหมอคางดำระบาด เคยได้รับการเยียวยาอะไรจากภาครัฐบ้างแล้วหรือยัง ก็มีแค่ช่วงหนึ่งที่รัฐมารับซื้อกิโลกรัมละ 20 บาท แต่เป็นระยะเวลาสั้นๆไม่นานก็ระบาดหนักกว่าเก่า อยากให้เปิดโรงงานรับซื้อระยะยาวไปเลยจนกว่าปลานี้มันจะหมดไป อย่าซื้อแค่แป๊บเดียวแล้วเลิกเหมือนที่ผ่านมา อย่าแก้ปัญหาแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอด เพราะการรับซื้อกิโลกรัมละ 15 บาทอย่างต่อเนื่อง ก็พอจะทำให้ผู้เพาะเลี้ยงเอาเงินไปทำทุนหมุนเวียนได้

ถ้าหากรัฐบาลจัดการไม่ได้ เราก็ควักทุนตัวเองทำไปเรื่อยๆ ก็ต้องสู้กับมันไป แต่ก็ดูแล้วว่าอีกหน่อยคงจะไม่ไหวแล้ว คงต้องเลิกไปทำอาชีพอื่น คนที่ทำอาชีพเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงสัตว์น้ำธรรมชาติแบบตนนี่ไม่ได้มีทุนเยอะ เลี้ยงแบบบ้านๆ ถ้ากำไรแทบจะไม่มี ต้องควักทุนมากเข้า ก็พากันพังพินาศเลิกกันไปหมด

เมื่อถามว่าต้องการจะสื่ออะไรไปถึงรัฐบาลเกี่ยวกับกรณีปัญหาปลาหมอคางดําไหม นายณรงค์ กล่าวว่า อยากให้ทั้งคนต้นเหตุและหน่วยงานที่อนุญาตให้เข้ามารับผิดชอบจริงจังกว่านี้ อย่าทําให้ประชาชนฐานรากหญ้าเล็กๆ ต้องพัง อย่างเขาบริษัทใหญ่ๆ นําเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ แต่มันหลุดมาทําลายระบบนิเวศที่ชาวบ้านตาดำๆ อาศัยทำมาหากินอย่างเช่นตอนนี้

ส่วนที่บอกว่าจะใช้เวลาเดือนเดียวควบคุมปลาหมอคางดำได้ ตนอยู่กับธรรมชาติมาครึ่งชีวิต ไม่เชื่อว่าจะมาใช้ระยะเวลาสั้นๆ แค่เดือนเดียว จะควบคุมมันได้ง่ายๆ ทำไม่ได้หรอก ปลาหมอคางดำมันแพร่พันธุ์เร็ว แถมยังทั้งอึดและทน ตายยาก กินหมดทุกอย่างที่ขวางหน้า อยากให้ภาครัฐวิจัยดีกว่า ว่ามีวิธีไหนที่ได้ผลในการลดจำนวนปลาหมอคางดำ นอกจากทำให้เป็นหมันแล้ว ทำให้ไข่มันฝ่อด้วย แบบนี้อาจจะยังมองเห็นหนทางลดจำนวนลดได้บ้าง.