สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่า นักบินเฮลิคอปเตอร์ชาวนิวซีแลนด์ ถูกกองกำลังแบ่งแยกดินแดนปาปัวยิงเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชาวอินโดนีเซีย 4 คน และเด็ก 2 คน ซึ่งเดินทางมาด้วยกันรอดชีวิต

นายไฟซาล รามาดานี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการสันติภาพคาร์เทนซ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการปัญหากลุ่มแบ่งแยกดินแดนปาปัว ระบุในแถลงการณ์ว่า “ได้รับการยืนยันแล้วว่า กลุ่มอาชญากรติดอาวุธ ก่อเหตุจับเป็นตัวประกันและสังหาร” โดยกลุ่มติดอาวุธยิงนักบินรายนี้เสียชีวิต แล้วนำร่างของเขาใส่เฮลิคอปเตอร์และจุดไฟเผา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ถึง 2 ปี หลังกลุ่มกบฏจากกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติปาปัวตะวันตก (ทีพีเอ็นพีบี) ลักพาตัวนักบินชาวนิวซีแลนด์อีกคน ซึ่งในขณะนี้ยังคงถูกจองจำ อย่างไรก็ตาม ทีพีเอ็นพีบีไม่ได้ยืนยันว่า เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวของกับเหตุสังหารครั้งนี้ แต่เพียงระบุว่านักบินล่วงล้ำเข้าไปภายในพื้นที่ต้องห้าม

นายเซบบี แซมบอม โฆษกของกลุ่มกล่าวว่า “นี่เป็นเขตขัดแย้งที่เราห้ามไว้ รวมไปถึงกิจกรรมของพลเรือนด้วย และห้ามเข้าในทุกกรณี” โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มกบฏทีพีเอ็นพีบี เคยเรียกร้องให้อินโดนีเซียรับรองเอกราชของปาปัว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวนิวซีแลนด์

‘ปาปัว’ อดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ ประกาศเอกราชในปี 2504 แต่ถูกอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เข้ายึดครองในอีก 2 ปีต่อมา และจัดให้มีการลงประชามติ เมื่อปี 2512 โดยการสนับสนุนจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งขณะนั้นมีชาวปาปัวกว่า 1,000 คน ลงคะแนนเพื่อผนวกรวมเข้ากับอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชของปาปัวมักวิพากษ์วิจารณ์ การลงคะแนนเสียงดังกล่าว และเรียกร้องให้มีการลงคะแนนใหม่ ขณะที่อินโดนีเซียอ้างว่า การมีอำนาจอธิปไตยเหนือปาปัวได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES