เมื่อวันที่ 6 ส.ค. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 3 ได้มอบหมายให้ งานสืบสวนคดีทุจริต ภาค 3 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ทำการจับกุม นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ อดีตรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลพิมาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 คดียักยอกเงินออกจากคลัง อบต.พิมาย รวมมูลค่าที่รัฐเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งผลให้ นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ไหวตัว และมีพฤติการณ์หลบหนี โดยใช้วิธีการนำบัตรประชาชน และเอกสารหลักฐานแสดงตัวตนของพี่สะใภ้ มาอำพรางตนเอง ก่อนจะไปสมัครทำงานหนีซุกปีกทนายความคนดังรายหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่เป็นเสมียนทนายและเลขาฯคนสนิท ในช่วงเวลา 07.00 น. เป็นเหตุบังเอิญที่ทนายความคนดังรายนี้รับว่าความทำคดีให้กับผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่งในเขตจังหวัดนครราชสีมา จึงมีความจำเป็นที่ทนายความคนดัง พร้อมเลขาฯคนสนิทรายดังกล่าว ต้องเดินทางมายัง สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต

สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ได้ดำเนินการแกะรอยและตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งยืนยันแล้วว่าเลขาฯคนสนิทรายดังกล่าวนี้คือ นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จริง แม้นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ จะทำทรงผม แต่งหน้าให้มีลักษณะเหมือนพี่สะใภ้ และอ้างตนว่าเป็นพี่สะใภ้อย่างไรก็ตาม 

เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าว ซึ่งตอนแรก นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ให้การปฏิเสธว่าตนไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ แต่สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้พูดคุยอธิบาย จนกระทั่งผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าวให้การยอมรับว่าตน คือ บุคคลตามหมายจับ

ในช่วงเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงได้นำตัว นางวาสนา พลทา หรือ นางสาวพิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ไปทำบันทึกการจับกุม ณ สภ.เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะนำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.