เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” ได้โพสต์เตือนสายหวานที่ชอบดื่มชานมทุกวัน เสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไต เพราะในชานมมีทั้งความหวาน และนมมีแคลเซียมสูง และสารในใบชามีผลต่อปัสสาวะนั่นเอง

โดย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุข้อความว่า “ดื่มชานมหวานทุกวัน ระวังเสี่ยงเป็นนิ่วในไต เพราะชานมเย็นหวานๆ และแก้วโปรดที่ใครหลายคนติดใจ อาจไม่ใช่แค่ตัวการทำให้น้ำหนักพุ่งอย่างเดียว แต่มันยังแอบแฝงอันตรายที่น่ากลัว นั่นก็คือ “นิ่วในไต” แต่ชานมเกี่ยวอะไรกับนิ่วในไตหรือไม่ โดย “นิ่วในไต” เกิดจากการตกผลึกของแร่ธาตุต่างๆ ในปัสสาวะ จนรวมตัวกันเป็นก้อนแข็งๆ มีขนาดตั้งแต่เม็ดทรายยันลูกปิงปอง ซึ่งเจ้าก้อนนิ่ว มันจะไปอุดตันทางเดินปัสสาวะ ทำให้อั้นฉี่ไม่ได้ ปวดท้องรุนแรง และบางรายถึงขั้นไตวายได้เลยนะ อีกทั้งชานมหวาน ตัวร้ายทำลายไตในชานมหวาน เพราะนอกจากจะมีน้ำตาลมหาศาล ยังมีสารอาหารบางอย่าง ที่เป็นตัวเร่งให้เกิดนิ่วในไต ได้แก่

– น้ำตาลฟรุคโตส และฟรุคโตส ที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ไตทำงานหนัก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว

– แคลเซียม นอกจากนี้ ชานมบางชนิดมีส่วนผสมของนม ซึ่งมีแคลเซียมสูง แคลเซียมส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ และอาจตกผลึกเป็นนิ่วได้

– ออกซาเลต สารนี้พบได้ในใบชา ซึ่งออกซาเลตจะจับตัวกับแคลเซียม กลายเป็นนิ่วชนิดแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุด”

ดื่มชานมยังไงไม่ให้นิ่วถามหา มีดังนี้
1. ลดหวาน สั่งแบบหวานน้อย หรือไม่ใส่น้ำตาลเลยยิ่งดี
2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ น้ำเปล่าช่วยเจือจางปัสสาวะ ลดการตกผลึกของแร่ธาตุ
3. เลือกนมไขมันต่ำ นมพร่องมันเนยหรือนมถั่วเหลือง ช่วยลดปริมาณแคลเซียม
4. ทานผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มะเขือเทศ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว

อย่างไรก็ตาม เราสามารถดื่มชานมเย็นได้ แต่ต้องดื่มอย่างพอประมาณ เลือกแบบหวานน้อย และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ต้องรักตัวเองห่วงใยสุขภาพ แล้วเราจะดื่มด่ำความอร่อยของชานมเย็นได้อย่างสบายใจ แต่รู้หรือไม่ นิ่วในไตมีชื่อเรียกแบบน่ารักๆ ว่า “หินในไต” หรือ “ทรายในไต” แต่ถึงชื่อจะน่ารัก แต่อันตรายอย่าบอกใครเลยนะ ต้องรักตัวเอง และห่างไกลนิ่ว ด้วยการดื่มชานมอย่างพอดีอีกด้วย..

ขอบคุณข้อมูล : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข