นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนข. ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นนำทาง (NAM TANG) ซึ่งเป็นระบบนำทางการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ให้สามารถดูข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะได้ครบทุกโหมดการเดินทางแล้ว ทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้วรวม 1,422 เส้นทาง 7,717 จุดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถโดยสารประจำทาง, รถไฟ, รถไฟฟ้า, เรือยนต์ข้ามฟาก, เรือคลองแสนแสบ, เรือคลองภาษีเจริญ และเรือคลองผดุงกรุงเกษม ปัจจุบันขาดเพียงเรือด่วนเจ้าพระยา อยู่ระหว่างเร่งประสานงาน จะเร่งดำเนินการนำข้อมูลใส่ไว้ในแอปฯ ให้แล้วเสร็จ และพร้อมบริการปลายปี 67

นายปัญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีพิกัดสัญญาณ GPS ขนส่งสาธารณะเชื่อมโยงจากกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) และบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด กว่า 6,000 ขนส่งสาธารณะ กว่า 300 เส้นทาง (รถเมล์ รถตู้ เรือ รถเมล์ BRT และรถเมล์ไฟฟ้า BMA Feeder ) พร้อมทั้งเริ่มนำร่องขนส่งสาธารณะในภูมิภาคที่จังหวัดระนอง 8 เส้นทาง 165 สถานี และมีแผนนำระบบข้อมูลขนส่งสาธารณะ 11 จังหวัดใหญ่ มาบรรจุลงในแอปฯ ด้วย ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, พิษณุโลก, ขอนแก่น, นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี, สุราษฎร์ธานี, สงขลา กระบี่ และพระนครศรีอยุธยา

นายปัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับแอปฯ นำทางจะแสดงสถานีขนส่งสาธารณะในรัศมีรอบตัว พร้อมรายละเอียดต่างๆ และสามารถแสดงตำแหน่งขนส่งสาธารณะระบบต่างๆ โดยจะแสดงทางเลือกในการเดินทาง ได้แก่ เร็วที่สุด ถูกที่สุด และระยะทางสั้นที่สุด รวมทั้งจะแสดงเส้นทางเพื่อการนำทาง และแจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย นอกจากนี้ยังแสดงสถานที่สำคัญ อาทิ ร้านอาหาร ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ สถานที่ราชการ ตลอดจนแสดงเหตุการณ์สำคัญแบบเรียลไทม์ อาทิ อุบัติเหตุ น้ำท่วม ไฟไหม้ ขณะเดียวกันผู้ใช้แอปฯ สามารถรายงานเหตุการณ์ที่พบด้วยตนเองผ่านแอปฯ ได้ด้วย

นายปัญญา กล่าวด้วยว่า แอปฯ ดังกล่าว จะช่วยเป็นข้อมูลในการวางแผน และตัดสินใจเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ช่วยลดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งนี้ สนข. จะพัฒนาแอปฯ อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้จะเร่งเชื่อมโยงข้อมูลขนส่งสาธารณะที่ไปยังภูมิภาค และข้อมูลการให้บริการทางอากาศ รวมทั้งขยายผลการใช้งานไปยังหัวเมืองหลักให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพิ่มการแสดงผลระยะเวลาการมาถึงของขนส่งสาธารณะให้มากขึ้นในทุกการค้นหาเส้นทาง และเพิ่มการแสดงผลสถานที่สำคัญ และมีชื่อเสียง โดยเฉพาะร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่ง กทม. จะนำแอปฯ ไปประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวด้วย

นายปัญญา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอปฯ นำทาง ยังน้อยมากอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาแอปฯ ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ โดยขณะนี้ สนข. ได้เร่งประชาสัมพันธ์ และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเผยแพร่ข้อมูลแอปดังกล่าว รวมทั้งใส่ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการเดินทางต่อประชาชน และนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ดาวน์โหลดให้มากขึ้น ล่าสุดจำนวนผู้ดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 500 ครั้ง นอกจากนี้ในอนาคตจะเพิ่มภาษาในการใช้งานแอปฯ ให้มากขึ้น จากเดิมมีเพียงภาษาไทย และอังกฤษ จะเพิ่มเป็น อาทิ ภาษาจีน และญี่ปุ่น เป็นต้น.