เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่ สน.คลองตัน นางโยชิมิ นิชิ (MISS YOSHIMI NISHI) อายุ 66 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้เสียหาย พร้อมครอบครัว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน และ ร.ต.อ.สถาพร โสตถิยิ้ม รอง สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน แจ้งว่านายทากาชีโร่ นิชิ (MR.TAKAHIRO NISHI) อายุ 39 ปี สัญชาติญี่ปุ่น หนังสือเดินทางเลขที่ MU8546526 บุตรชายของผู้เสียหายได้หายตัวไป หลังเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย โดยติดต่อกับลูกชายครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 63 ผ่านทางแอปไลน์ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก

ต่อมาผู้เสียหายจึงติดต่อมายังสถานทูตญี่ปุ่น โดยสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย แจ้งว่า นายทากาชีโร่ (TAKAHIRO NISHI) ถูกจับกุมตามหมายจับตามคดีอาญาเลขที่ 797/2563 ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ส่งดำเนินคดีที่ศาลแขวงพระนครใต้ ต่อมานายทากาชีโร่ ได้หนีประกันในชั้นศาล และได้มีหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.321/2565

ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. 66 ผู้เสียหายได้รับข้อความทางอีเมล แจ้งว่านายทากาชีโร่ มีอาการป่วยหนักต้องใช้เงิน ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารญี่ปุ่น จำนวน 1 ล้านเยน จากนั้นวันที่ 21 มิ.ย. 66 ได้มีอีเมลมาหาผู้เสียหายอีกครั้งระบุว่า ต้องใช้เงินอีก 300,000 เยน แต่ผู้สียหายไม่ได้โอนเงินให้ไป จึงตรวจสอบกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่านายทากาชีโร่ (ลูกชาย) เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 63 ผ่านด่าน ตม.หนองคาย และมีการต่อวีซ่าล่าสุดที่ ตม.นครสวรค์ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 64 และจะสิ้นสุดการอนุญาตเมื่อปี 2565 โดยนายทากาชีโร่ ยังไม่ได้มีการเดินทางออกจากประเทศไทย ผู้เสียหายจึงเกรงว่าลูกชายจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามหาบุตรชายของผู้แจ้งต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 กล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีการประสานงานไปยัง สตม. เพราะทางครอบครัวเพิ่งเดินทางเข้าแจ้งความว่ามีบุคคลสูญหายในวันนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นขบวนการของการตรวจสอบ โดยจะมีการไล่เช็กว่าประกันตัวไปอย่างไร เมื่อไร และใครเป็นผู้ประกัน รวมไปถึงพักที่ไหนอีกด้วย

อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ได้สรุปว่า นายทากาชีโร่ ยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตไปแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ตำรวจมีข้อมูลว่า ทั้งคู่มีการไปต่อวีซ่า ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 โดยตัว นายทากาชีโร่ ไปต่อวีซ่า ที่ ตม. จ.นครสวรรค์ แต่เพื่อน ไปต่อที่ศูนย์ราชการ

สำหรับ ประเด็นที่มีอีเมลปริศนา ส่งไปขอเงินกับแม่ของ นายทากาชีโร่ โดยอ้างว่า นายทากาชีโร่ ป่วยหนัก ต้องการใช้เงินนั้น จากการตรวจสอบพบเป็นอีเมลของเพื่อน เป็นคนส่งไป เบื้องต้นทางตำรวจได้ประสานไปยังตำรวจนครสวรรค์ เพื่อตรวจสอบจุดใกล้เคียง ตม. ที่ นายทากาชีโร่ ไปต่อวีซ่า และหาที่อยู่ เพื่อหาเบาะแสคนหาย