ต่อมาเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ส.ค. 67 ที่ประชุมวุฒิสภา พิจารณาวาระการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามที่คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เสนอชื่อนายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รองอัยการสูงสุด ขึ้นทำหน้าที่เป็นอัยการสูงสุด ส่งให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณา แต่ปรากฏว่า น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ อภิปรายขอให้ส่งชื่อนายไพรัช กลับไปให้ ก.อ. ทบทวนและเสนอกลับมาใหม่ เพราะไม่ต้องการให้ สว.ชุดปัจจุบัน ถูกมองภาพการทำงานเป็นการรับมรดกมาจาก สว.ชุดเก่า กมธ.ชุดใหม่ไม่ควรรับข้อมูลเดิมที่เป็นของ กมธ.ชุดที่แล้วที่ทำเป็นการลับ ไม่รู้จะตรวจสอบอย่างไร แต่ปรากฏว่าถูกคัดค้าน อาทิ นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. ที่เห็นแย้งว่า การแต่งตั้งอัยการสูงสุด หากถอยกลับไปเริ่มต้นใหม่ จะไม่ทันต่อการดำรงตำแหน่งดังกล่าวในเดือน ต.ค. นี้ ควรเสนอชื่อ กมธ. ทำหน้าที่กลั่นกรองตรวจสอบประวัติต่อไป

ทำให้นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาแล้วยืนยันให้เสนอชื่อ กมธ. เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ จำนวน 15 คน แต่ปรากฏว่า สว. แต่ละกลุ่มไม่ยอมกัน พากันเสนอชื่อ สว. ฝ่ายตัวเองเป็น กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ รวม 33 คน เกินจำนวนที่กำหนด ทำให้ต้องใช้ลงมติผ่านบัตรลงคะแนน เพื่อตัดสิน ก่อนจะสั่งให้พักการประชุม เพื่อเตรียมขั้นตอนการลงคะแนน

จนกระทั่งเวลา 17.30 น. ภายหลังพักการประชุม กลับมาเปิดประชุมใหม่ สว.กลุ่มอิสระ และ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ต่างไม่พอใจพากันตำหนิว่า จะมีการใช้เสียงข้างมากลากไปในการตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติ แทนที่จะใช้การรอมชอมกัน เช่น การจับสลาก หรือเจรจาไกล่เกลี่ยเหมือนที่ผ่านมา ถือว่าไม่ฟังเสียงข้างน้อย

โดย นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.กลุ่มสีขาว กล่าวว่า ขอไม่ร่วมสังฆกรรมในการโหวตครั้งนี้ ที่มีการใช้เสียงข้างมากลากไป ก่อนที่จะวอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุม อย่างไรก็ตาม พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ยืนยันว่าให้มีการลงมติผ่านบัตรลงคะแนน เพื่อคัดเลือก กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ให้เหลือ 15 คน.