เมื่อวันที่ 5 ส.ค. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี ชายชาว จ.ร้อยเอ็ด ถูกอุ้มไปทำร้ายทารุณอย่างสาหัส ทุบตีจนกระดูกหักหลายจุด ใช้ของมีคมกรีดร่างกาย ใช้เกลือทา โดยบังคับให้ลูกชายของผู้บาดเจ็บนั่งดูพ่อถูกทรมาน เหตุเกิดที่ อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด
นายศักดา ผู้เสียหายเล่าว่า ไปดำนา แล้วเกิดทะเลาะมีปากเสียงกับคู่กรณีชื่อนายสมัย ซึ่งเป็นญาติ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ซึ่งตนกับนายสมัย เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย แต่ไม่เคยถึงขั้นรุนแรงอะไร จนมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. เมาแล้วมีเรื่องชกต่อยกัน นายศักดาเตะนายสมัย ในตอนที่มีเรื่อง จนนายสมัยสลบ
ต่อมา นายหลุยส์ ลูกชายของนายสมัย ซึ่งเป็นอดีตนายสิบ อยู่ที่ กทม. ทราบว่าพ่อถูกเตะสลบ โกรธมาก จึงเดินทางมาจาก กทม. นั่งรถตู้มากับเพื่อนอีก 2 คน ชื่อ ปาร์ค กับ ท็อป มาที่บ้านของนายศักดา (ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชาย) แต่ไปที่บ้านแล้วไม่เจอ จึงไปตามหากับกั๊ก ลูกชายของนายศักดา ตอนนั้นกั๊ก ไม่รู้ว่าเขาจะมาเอาเรื่องพ่อ จึงพากลุ่มของนายหลุยส์ไปหาพ่อที่เถียงนา
พอไปถึงเถียงนา กลุ่มนายหลุยส์ไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าไปรุมทำร้ายนายศักดา อย่างโหดเหี้ยม โดยนายหลุยส์เป็นคนล็อกตัว แล้วกลุ่มเพื่อนๆ ใช้ด้ามเสียมฟาดตามขาจนขาหัก เอานิ้ววางบนม้าหินอ่อน แล้วใช้ด้ามเสียมทุบจนกระดูกแตก เอาเสียบสับจนเป็นแผล เอาเกลือที่อยู่แถวนั้นมาทาให้แสบ ส่วนกั๊ก ลูกชายของนายศักดาผู้เสียหาย ถูกกดลงกับพื้น บังคับให้ดูพ่อถูกกระทำทารุณ
นายท็อป ยังลากนายกั๊กมาตรงหน้าพ่อ แล้วถามว่า จะให้กูตัดแขนมึง หรือให้กูตัดนิ้วลูกมึงดี ให้พ่อเลือก พ่อก็บอกว่าอย่าทำลูกผม นายหลุยส์เข้ามาดึงกั๊กออก และบอกเพื่อนว่า ไอ้กั๊กไม่เกี่ยว อย่าไปทำมัน ให้ทำพ่อมันอย่างเดียว
กลุ่มผู้ก่อเหตุ รุมทำร้ายใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นก็บังคับให้นายศักดาลงไปในน้ำ บอกว่าให้ล้างเลือดออกให้หมด แล้วพานายกั๊กไปส่งบ้าน พูดทิ้งท้ายอีกว่า “หวังว่ามึงกับกูไม่ต้องเจอกันอีกนะ” แล้วก็จากไป
กั๊ก พอกลับบ้านได้ ก็รีบติดต่อขอความช่วยเหลือจากบรรดารุ่นพี่ ให้ไปช่วยกันพาพ่อไปส่งโรงพยาบาลเมยวดี เอกซเรย์ ทำแผลเบื้องต้น อาการหนัก ต้องส่งต่อโรงพยาบาลโพนทอง ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 3 คืน
ต่อมา คุณแอ๋ม พี่สาวของศักดา ติดต่อไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้าน คือคุณร่มเย็น ประสานขอความช่วยเหลือจาก ทนายกบ ธนกฤต สิทธิราช อยากย้ำว่าพฤติกรรมต่างๆ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุทำ มันอุกฉกรรจ์มากจริงๆ ถ้านายศักดาตาย เท่ากับผู้ก่อเหตุต้องรับโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต
เท่าที่ทราบจากผู้เสียหาย บอกว่า ผู้ก่อเหตุใส่ถุงมือทุกคน เหมือนเขาตระเตรียมมาอย่างดี แต่ก็มั่นใจว่ามีพยานหลักฐาน ประจักษ์พยานต่างๆ จะเอาผิดผู้ก่อเหตุได้
คุณร่มเย็น ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หลังเกิดเหตุ ยังมีโทรศัพท์ปริศนามาหาครอบครัวผู้เสียหาย บอกว่าเป็นเลขาฯ ของร้อยเวร บอกว่าชี้ตัวคนผิดนะ อะไรต่างๆ นานา
ทางคุณแอ๋ม พี่สาวของศักดาบอกว่า ทางคู่กรณีติดต่อมาทางพี่ชาย ว่าจะขอเคลียร์ไม่ให้เอาเรื่อง จะให้เงิน 4 หมื่น ขอให้จบเรื่องกันไป เพราะเป็นญาติพี่น้องกัน แต่ทางครอบครัวตนบอกว่า ไม่ยอม ไม่อย่างนั้นต่อไป ไม่ชอบใครก็มาฆ่ามาแกงกัน แล้วเอาเงินฟาดหัวได้อย่างนั้นเหรอ ยังไงก็จะเอาผิดให้ถึงที่สุด จะรอดูว่าตำรวจจะเอาคนผิดมาลงโทษได้ไหม
ขณะที่ทนายกบบอกว่า การที่คู่กรณีจะให้การปฏิเสธ จะอ้างว่าไม่ได้อยู่ร้อยเอ็ด ตอนเกิดเหตุอยู่ที่ กทม. ก็เป็นสิทธิที่จะปฏิเสธได้ แต่ทุกอย่างมันพิสูจน์ได้อยู่แล้ว นายศักดาก็มั่นใจว่าเป็นนายหลุยส์ กับนายท็อป ที่มาทำร้ายอย่างแน่นอน ไม่มีทางจะจำผิดแน่นอน
