จากที่มีรายงานข่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ( รทสช.) ได้ขอโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีให้ “ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการพรรค จากที่โควตารัฐมนตรีของ รทสช.ว่างอยู่ตำแหน่งหนึ่งจากการที่ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกจาก รมช.คลัง เนื่องจากถูกลดบทบาทในกระทรวง ในการปรับ ครม. ครั้งที่ผ่านมา ( พร้อมเปลี่ยนริงโทนรอสายเป็นเพลงน้ำตาจ่าโท ) เรื่องนี้ “นายกฯ เสี่ยนิด นายเศรษฐา ทวีสิน” บอกว่า ทราบข่าวจากการอ่านหนังสือพิมพ์ แต่เดือน ส.ค.มีเหตุการณ์หลายอย่างที่เกี่ยวกับระบบตุลาการ ขอให้เรื่องมันจบไปก่อน การพิจารณาคงไม่ใช่เร็วๆ นี้

ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ไปเปิดงานวิชาการโรงพยาบาลชุมชนเข้มแข็งระบบสุขภาพไทยยั่งยืน ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี นายสมศักดิ์ได้ย้ำเรื่องที่นายกฯ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ ปัจจุบันจะต้องเพิ่มแพทย์ ประมาณ 4,000 คนต่อปี พยาบาล 15,000 คนต่อปี แต่การเพิ่มแพทย์ พยาบาล เบื้องต้น ให้ผลิตผู้ช่วยพยาบาลในทุกจังหวัด จากเดิมที่ผลิตได้ประมาณ 8,000 คนก็เพิ่มมาให้ได้เพียงเป็นอย่างน้อย 12,000 – 15,000 คน และจะผลักดันกฎหมายดูแล อสม.

นายสมศักดิ์กล่าวตอนหนึ่งว่า “ผมได้วางแนวนโยบายทั้งหมด เพื่อให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ผมเร่งทุกสัปดาห์เพราะอนาคตมันไม่แน่นอน ผมอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ แต่อยู่ไม่นาน แต่ก็จะถูกย้ายอยู่ตลอดเวลา” จึงเป็นที่น่าสนใจว่า หากมีการปรับ ครม.อีกครั้ง นายสมศักดิ์จะหลุดจากเก้าอี้ รมว.สาธารณสุขหรือไม่ จากข้อขัดแย้งกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เกี่ยวกับการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งนายสมศักดิ์ยังยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า “ต้องเอากลับไปเป็นยาเสพติดก่อนกฎหมายควบคุมการใช้ออกมา เพราะกระบวนการกฎหมายใช้เวลานาน” ขณะที่มีข่าวว่า เกิด “ปฏิญญาโคราช”ที่“ผู้มีอิทธิพลในรัฐบาล”ไฟเขียวให้รีบออกกฎหมายควบคุมกัญชา จนแม้แต่นายกฯ เสี่ยนิด ยังแสดงท่าทีให้ออกกฎหมาย และพรรคภูมิใจไทยก็มีความพร้อม เพราะมีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่คาสภาอยู่

วันที่ 7 ส.ค.เป็นวันที่ลุ้นระทึกว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใหญ่อีกครั้งหรือไม่ มันคือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรรคก้าวไกลกระทำการขัดต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ โดยในคำร้องของ กกต. ให้ยุบพรรคและตัดสิทธิผู้บริหารพรรค ผลที่ตามมาคือ หากกรรมการบริหารเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตำแหน่งจะว่างลง ส่วน สส.ที่ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคต้องหาสังกัดใหม่ ซึ่งมีข่าวปล่อยมากมายเกี่ยวกับว่า พรรคไหนจะซื้องูเห่า โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเพิ่มเสียงสส.ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) บอกว่า ทางพรรคก้าวไกลประสานว่า ในการประชุมสภาวันที่ 7 ส.ค.ขอให้เลิกประชุมเร็วขึ้น ขอให้กำลังใจ สส.พรรคก้าวไกล สมาชิกพรรค โหวตเตอร์ พรรคไทยรักไทยก็โดนมาหมดแล้ว ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ส่วนเรื่องการแก้กฎหมายยุบพรรคต้องฟังทุกฝ่ายก่อน หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ ฝ่ายค้านจะลดลง สัดส่วนกรรมาธิการ ( กมธ.) ก็ต้องเปลี่ยน แต่ยังไม่อยากพูดถึง

ประธานวิปรัฐบาลกล่าวอีกว่า ไม่ทราบข่าวว่า มี สส.ฝ่ายรัฐบาลพยายามดูด สส.ก้าวไกล อาจจะมีคนกล่าวชวนแบบทีเล่นทีจริงก็เป็นเรื่องปกติ แต่คงไม่ได้ไปพูดว่าจะดึงคนนั้นคนนี้มาอยู่ ในส่วนพรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดคุยกัน และเชื่อว่า เสียงขนาดนี้เพียงพอแล้วที่เราจะอยู่กันได้อย่างสบาย หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ และส่งผลต่อตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องคุยกัน ยังไม่มีใครบอกว่าต้องการโควตานี้ และนายกฯ ยังยืนยันด้วยว่า ไม่จำเป็นต้องไปดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล เพราะเสียงเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้แสดงท่าทีชัดแล้วว่า เก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ควรเป็นของพรรคภูมิใจไทย

ก่อนหน้านี้ นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ที่เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาแสดงความเห็นเรื่องคดี ทำให้คนในพรรคก้าวไกลไม่พอใจ โดยนายพริษฐ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์ X ถามว่า “แม้ว่า นายคารมอ้างว่าเป็นความเห็นส่วนตัว แต่โพสต์ในเวบไซด์ของรัฐบาล ถือเป็นความเห็นของรัฐบาลหรือไม่” ซึ่งนายพริษฐได้ถามรัฐบาลว่า รัฐบาลไม่เข้าใจหรือจงใจไม่เข้าใจเนื้อหาสาระของร่างแก้ไข ม. 112 ที่ สส.ก้าวไกลเคยเสนอต่อสภา จึงได้มีการพยายามสร้างความเข้าใจผิดกับสังคม ว่าร่างดังกล่าวจะทำให้พระมหากษัตริย์ไม่ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายและการปกป้องจากการหมิ่นประมาท ซึ่งไม่เป็นความจริง

นายพริษฐยังเตือนไปอีกว่า ข้อมูล ความเห็น เอกสารทั้งหมดที่เราเผยแพร่ ก็เป็นชุดเดียวกับที่เรายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ แต่คนของรัฐบาลกลับมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหาในคดีนี้ที่อาจถูกมองว่าเป็นการชี้นำศาล ทั้งที่รัฐบาลเองไม่ได้เป็นคู่กรณีและถืออำนาจรัฐฝ่ายบริหารอยู่