เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ศรีสมาน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนนท์ รองโฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงผลการสอบสวนกรณีการลงโทษสั่งแก้ผ้าพลทหาร ที่ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ว่า เรื่องดังกล่าวผิดจริง ซึ่งการลงโทษกำลังพล พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เน้นย้ำอยู่แล้ว ให้ยึดระเบียบกองทัพในการลงโทษ โดยเฉพาะการกระทำไม่ถูกต้อง ลงโทษเกินกว่าเหตุ กระทำผิดวินัย ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้สั่งการเสมอว่า ให้ผู้บังคับบัญชาระดับหน่วยลงไปเน้นย้ำ และหากมีการกระทำความผิดให้ลงโทษตามระเบียบวินัยทหาร ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว ทำกันอยู่ทุกยุคทุกสมัย
เมื่อถามว่าขณะนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยากให้แยกตัวผู้กระทำความผิดกับผู้สั่งการออกนอกหน่วย ให้อยู่คนละพื้นที่ ป้องกันปัญหาการข่มขู่คุกคาม พ.อ.ริชฌา กล่าวต่อว่า ปกติเราก็จะแยกสอบสวนกันอยู่แล้ว ในส่วนเรื่องการข่มขู่นั้น จะตั้งคณะกรรมการสอบคนละหน่วย เพื่อที่จะเข้าไปสอบสวน ป้องกันความไม่เป็นธรรม และให้เป็นกลางที่สุด ในเรื่องการข่มขู่ที่อาจจะมีภาพข่าวออกมา ตนมองว่าเรื่องนี้เรามีมาตรการ ยืนยันว่าคู่กรณีได้ถูกแยกกันออกจากหน่วยแล้ว สำหรับคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ จะเป็นผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่า
“ยืนยันว่าการลงโทษทหารเกณฑ์ดังกล่าว มีความผิดจริง หากเราดูตามปกติแล้วเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ที่จริงแล้วการลงโทษทางทหาร เรียกว่าท่ากายบริหารของทหาร ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ดันพื้นที่ พุ่งหลัง และวิ่ง ซึ่งจะต้องดูสภาพของทหารเกณฑ์ดังกล่าวด้วยว่าไหวหรือไม่ แต่หากมีการวิ่ง หรือดันพื้น หรือทำจนกระทั่งนายทหารคนนั้นฟุบหมดสติ ซึ่งก็ต้องรู้ว่าคนใดมีสุขภาพร่างกายอย่างไร และในภาพที่ปรากฏชัดเจนอยู่แล้วว่าผิด เพราะมีการสั่งให้ถอดเสื้อผ้า ไม่มีอยู่ในระเบียบและข้อกำหนดในการลงโทษของกองทัพบก“ พ.อ.ริชฌา กล่าว
เมื่อถามต่อว่า มองว่าการสั่งให้แก้ผ้าวิปริตหรือไม่ พ.อ.ริชฌา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้องอยู่แล้ว จะให้คำตอบได้หรือไม่ว่าสั่งให้แก้ผ้าไปเพื่ออะไร ซึ่งการทำความผิดเป็นการผิดวินัยร้ายแรงจริงๆ เข้าข่ายหลายกระทง ส่วนความผิดทางอาญา ข้อหาอนาจารนั้น ต้องขอดูในเรื่องข้อกฎหมายก่อน ผิดก็ว่าตามผิด.