สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่าการทำแท้งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมีสัดส่วนประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก ยกเว้นกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์หรือการข่มขืน

ทั้งนี้ กฎระเบียบใหม่กำหนดให้ผู้หญิงต้องได้รับการเอกสารจากตำรวจ ที่ออกให้เพื่อรับรองว่าเป็นเหยื่อของการข่มขืน หลังจากก่อนหน้านี้ เหยื่อสามารถขอเอกสารดังกล่าวได้ จากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หรือนักจิตวิทยา

อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบฉบับใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายด้านสุขภาพและมีผลบังคับใช้ทันที หรือให้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับขั้นตอนของตำรวจ ในการจัดการกับเหยื่อข่มขืนในทันที

น.ส.ไมดินา ราห์มาวาตี จากสถาบันเพื่อการปฏิรูปความยุติธรรมทางอาญาของอินโดนีเซีย (ไอซีเจอาร์) ระบุว่า ตำรวจยังไม่ได้ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับความช่วยเหลือเฉพาะสำหรับเหยื่อข่มขืน รวมไปถึงการคุมกำเนิดฉุกเฉิน, บริการทำแท้งอย่างปลอดภัย และการฝึกอบรมพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่

ขณะเดียวกัน นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอาจส่งเสริมให้เหยื่อเลือกที่จะไม่ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง “โดยทั่วไป ผู้หญิงยังหวาดกลัวด้วยเหตุผลทางวัฒนธรรม, บรรทัดฐาน และศาสนา” น.ส.โอลิน มอนเตโร จากกลุ่มจาการ์ตาเฟมินิสต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสิทธิมนุษยชน ที่เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าว ให้ความเห็น

“บรรทัดฐานเหล่านี้ขัดขวางการเข้าถึงสิทธิในการยุติการตั้งครรภ์ของสตรี และจำกัดทางเลือกของเหยื่อให้เหลือทางเดียว ซึ่งได้แก่การแจ้งตำรวจ” มอนเตโรกล่าว

ขณะที่ น.ส.ตุงกัล ปาเวศตรี นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรี มองว่า กฎหมายดังกล่าวไม่ถือเป็นการช่วยเหลือเหยื่อแต่อย่างใด “นี่เป็นความถดถอย” เธอกล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : AFP