เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “นิด้าโพล:อนุทิน กำลังจะแซงโค้งเข้าวิน” ว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นทางการเมือง ของนิด้าโพลในประเด็นคำถาม หากมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคมนี้ จะเลือกบุคคลใดในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ผลปรากฏว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ 31.95 เปอร์เซ็นต์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ 30.99 เปอร์เซ็นต์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ 11.82 เปอร์เซ็นต์ นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค ได้ 8.31 เปอร์เซ็นต์ นายชัยเกษม นิติสิริ ได้ 2.23 เปอร์เซ็นต์ และไม่ตอบคำถามอีก 14.70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบผลการสำรวจของนิด้าโพล ในครั้งที่ผ่านมา พบว่านายอนุทินได้รับความนิยม 2.05 เปอร์เซ็นต์ แต่ในตอนนี้สถานการณ์เงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนไป ทำให้บทบาทของนายอนุทินโดดเด่น ถูกจับตาขึ้นมาทันที ปรากฏชื่อเป็นนายกฯ สำรอง บนหน้าสื่ออย่างต่อเนื่อง จึงทำให้คะแนนนิยมกระโดดสูงขึ้น สูสีกับคะแนนของ น.ส.แพทองธาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนยอมรับบทบาทของนายอนุทิน ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากขึ้น

นายเทพไท ระบุอีกว่า แม้ตอนนี้นายอนุทินจะปฏิเสธอย่างไรก็ตาม แต่ถือเป็นมารยาททางการเมือง เพราะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ต้องแสดงออกแบบรักษามารยาทในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ถ้าจะแสดงออกแบบกระสันหรือกระเหี้ยนกระหือรือ ต้องการจะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และเป็นธรรมดาของสังคมไทย ที่ใครแสดงออกอยากเป็น ก็จะไม่ได้เป็น ขณะเดียวกันใครที่ไม่อยากจะเป็น ส่วนใหญ่จะได้เป็น ซึ่งกรณีของนายอนุทินก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้ต้องปฏิเสธและถ่อมตัวไว้ก่อน เพราะสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าหลังวันที่ 14 ส.ค. มีอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมา ก็จะเห็นบทบาทที่แท้จริงของครูใหญ่บุรีรัมย์ ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทย จะเติมเกมเคลื่อนไหวให้นายอนุทินได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน