สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า พล.ร.ต.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า นโยบายของศูนย์บัญชาการพิทักษ์มาตุภูมิในแนวหน้า “ยังไม่เปลี่ยนแปลง” โดยหน่วยงานแห่งดังกล่าวมีภารกิจหลัก คือการปกป้องพลเรือนในยามเกิดสงคราม และภาวะฉุกเฉินที่รวมถึงภัยธรรมชาติ


อย่างไรก็ดี พล.ร.ต.ฮาการี กล่าวว่า มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ ระบบเตือนภัยการเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะเป็นการส่งข้อความอย่างทันท่วงทีไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนทุกคนในอิสราเอล


ทั้งนี้ บรรยากาศในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดสู่ระดับใหม่อีกครั้ง หลังการเสียชีวิตของนายฟูอัด ชูคร์ ที่ปรึกษาอาวุโสซึ่งถือเป็น “มือขวา” ของนายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และนายอิสมาอิบ ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส


จนถึงตอนนี้ อิสราเอล “ยอมรับ” เพียงว่าเป็นผู้สังหารชูคร์ ในการโจมตีที่กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน แต่ “รักษาท่าทีอย่างมาก” กับการเสียชีวิตของฮานิเยห์ ซึ่งเป็นการลอบสังหารที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ทุกฝ่ายเชื่อว่า อิสราเอลเป็นผู้ลงมือ


ขณะที่อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ส่งสัญญาณชัดเจน ว่าจะมีการตอบโต้ “ในช่วงเวลาที่เหมาะสม” ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลให้กับทุกภาคส่วน ว่าเลบานอนจะกลายเป็นแนวรบใหม่ นานาประเทศ รวมถึงสหรัฐ และฝรั่งเศส ต่างประกาศการอพยพพลเมืองของตัวเองออกจากเลบานอน


ด้านบทวิเคราะห์ของ อินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป (ไอซีจี) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระหว่างประเทศ ในด้านความขัดแย้ง ระบุว่า การลอบสังหารฮานิเยห์ทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลาง “อยู่ในภาวะอันตรายที่สุดในรอบหลายปี” และการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา “ให้ยาวนานที่สุด” จะช่วยลดระดับความตึงเครียดในภูมิภาคแห่งนี้ได้.

เครดิตภาพ : AFP