การแข่งขันแบดมินตันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ ลา ชาเปลล์ อารีน่า กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 4 ส.ค. 67 รอบรองชนะเลิศ ชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 8 ของโลก วัย 23 ปี พบ หลี่ ซีเจี๋ย วัย 26 ปี จากมาเลเซีย มือ 7 ของโลก สถิติการพบกันระหว่าง กุลวุฒิ กับ หลี่ ซีเจี๋ย สูสีสุดๆ เจอกันมา 8 ครั้ง ผลัดกันแพ้-ชนะ คนละ 4 ครั้งเท่ากัน

กุลวุฒิ เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทย ที่เข้ารอบตัดเชือกโอลิมปิกเกมส์ คนแรกใน 20 ปี นับจาก บุญศักดิ์ พลสนะ ทำได้เมื่อปี 2004 โดยหนนั้น บุญศักดิ์ ได้อันดับ 4 และลุ้นเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิกเกมส์

เกมแรกดวลกันสนุก เจ้าวิว ค่อยๆ ยืดระยะห่าง รักษาการเป็นผู้นำ จนทิ้ง 14-10 และโดนตามมา 14-11 ก่อนเรียกแพทย์มาดูอาการเจ็บระยะหนึ่ง แล้วลุยต่อ ก่อนจะทิ้งห่างชนะ 21-14 เก็บเกมแรกสำเร็จ

เกม 2 กุลวุฒิ ยังร้อนแรง รักษาสถานการณ์เป็นต่อโดยตลอด ก่อนชนะ 21-15 และชนะ 2-0 เกม กุลวุฒิ เข้ารอบชิงชนะเลิศ

สำหรับรอบชิงชนะเลิศ และชิงอันดับ 3 จะแข่งวันที่ 5 ส.ค. 67 แข่งช่วงค่ำตามเวลาไทย

การเข้ารอบชิงชนะเลิศของ กุลวุฒิ ทำให้เขาเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้เหรียญจากโอลิมปิกเกมส์ ไม่ว่าจะเหรียญทอง หรือเหรียญเงินก็ตาม ทั้งนี้ เงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สำหรับโอลิมปิกเกมส์ มี 2 แบบให้นักกีฬาเลือกได้ เหรียญทอง 12,000,000 บาท สำหรับแบ่งจ่าย โดยจ่ายเป็นก้อน 50% และที่เหลืออีก 50% จ่ายรายเดือน ในเวลา 4 ปี หรือ 10,000,000 บาท สำหรับจ่ายครั้งเดียว, เหรียญเงิน 7,200,000 บาท สำหรับแบ่งจ่าย หรือ 6,000,000 บาท จ่ายครั้งเดียว ขณะที่ เหรียญทองแดง 4,800,000 บาท สำหรับแบ่งจ่าย หรือ 4,000,000 บาท จ่ายครั้งเดียว

ทั้งนี้ทำให้ทัพนักกีฬาไทย จะมีเหรียญรางวัลจากโอลิมปิกเกมส์ อย่างน้อย 2 เหรียญ คือ กุลวุฒิ ซึ่งจะถือเป็นเหรียญแรกอย่างเป็นทางการ ในปารีสเกมส์ และ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากลหญิง รุ่น 66 กก. ที่เข้ารอบรองชนะเลิศ การันตีมีอย่างน้อยทองแดง