เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พ.ต.ท เฉลียว พยัคฆ์กุล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งผู้เสียชีวิตกลางทุ่งนา บ้านหนองฟักทอง หมู่ 4 ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 จุดลำปลายมาศ ที่เกิดเหตุบริเวณคันนา ห่างหมู่บ้านประมาณ 2 กม. พบศพ นายดำรง วิเศษสัตย์ อายุ 36 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าหัวทิ่มอยู่ในน้ำท้องนา ศีรษะแตก มีเลือดไหลออกมา เสื้อผ้าฉีกขาดมีรอยคล้ายรอยไฟไหม้และตามร่างกายมีรอยคล้ายถูกไฟลวก ไม่พบร่องรอยต่อสู้ ใกล้กันพบอุปกรณ์หาปลา ทั้งคันเบ็ด ไฟฉายคาดหัว และปลาอยู่ในข้อง สันนิษฐานเบื้องต้นถูกฟ้าผ่า จึงนำศพส่งชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวนเบื้องต้นภรรยาผู้ตายให้การทั้งน้ำตาว่า ปกติสามีจะออกไปหาปลาทุกวันช่วงที่มีฝนชุก ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ต.ค.) ก่อนสามีจะออกไปได้ทำกับข้าวมาให้กินผิดปกติจากทุกวันที่ไม่ค่อยทำมาก่อน จากนั้นนั่งกินข้าวด้วยกันจนอิ่มก่อนออกไปหาปลา ตนยังบอกว่าให้รีบกลับมา เพราะข่าวแจ้งว่าจะมีพายุเข้า ซึ่งสามีก็รับปากว่าจะรีบกลับแล้วก็ออกไปหาปลาตามปกติ กระทั่งดึกพายุฝนตกหนักมีฟ้าแลบฟ้าร้องตลอดเวลา เห็นยังไม่กลับก็เป็นห่วงจะโทรศัพท์ไปตามก็กลัวฟ้าผ่าเพราะเชื่อว่าหาปลาอยู่กลางแจ้ง
ภรรยาผู้ตายเล่าอีกว่า กระทั่งเช้ายังไม่กลับโทรศัพท์ไปก็ติดต่อไม่ได้ เลยโทรศัพท์ไปบอกพ่อสามีออกตามหา พบรถจยย.จอดอยู่ที่กระท่อมปลายนา ในกระท่อมพบโทรศัพท์ปิดเครื่องวางทิ้งไว้จึงออกเดินหารอบบริเวณกระทั่งพบศพดังกล่าว สาเหตุคาดว่าระหว่างฝนตกผู้ตายได้ออกมาหาปลาตามปกติโดยกลัวว่าจะถูกฟ้าผ่าจึงปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้ในกระท่อม แต่สุดท้ายก็ไม่รอด คาดว่าไฟฉายคาดเป็นตัวล่อสายฟ้าเลยถูกฟ้าผ่าศีรษะหน้าทิ่มท้องนาเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
แม่ผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุประมาณ 2 วัน มีนกเค้าแมว มาเกาะที่ชายคาบ้านแล้วร้องส่งเสียงโหยหวนชวนขนลุก เหมือนเป็นลางบอกเหตุตามความเชื่อของชาวบ้านว่าจะต้องมีคนในบ้านเสียชีวิต ตอนแรกคิดว่าอาจเกิดกับลุงที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ไม่คิดว่าจะเกิดกับลูกชายตัวเองเพราะอายุยังน้อย สงสารหลานชาย ที่อายุยังไม่ถึง 3 ขวบ ต้องมากำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก