นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า  สยามคูโบต้ามีพันธกิจในการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม โดยมุ่งเน้น “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นตามหลักการ Sustainable Development Goals หรือ SDGs 4 ด้าน ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร การศึกษาของเยาวชน ความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อม และ 1 ในโครงการที่สยามคูโบต้าได้จัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 คือ โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp เพื่อส่งต่อองค์ความรู้และนวัตกรรมการเกษตรสู่เยาวชนรุ่นใหม่ รวมถึงสร้างทัศนคติที่ดีและกระตุ้นให้เยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจการทำอาชีพเกษตรกรรม ตลอดจนตระหนักถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรแม่นยำอย่างยั่งยืนและรอบด้านมากขึ้น เพื่อเป็นเกษตรกรยุคใหม่ที่ดีในอนาคต ปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว ทั้งสิ้น 920 คน

สำหรับปีนี้ โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp 2024 ได้จัดขึ้นในชื่อตอน Real-life Agri Journey จากพื้นที่การเรียนรู้ สู่วิถีชีวิตจริง โดยคัดเลือกคนรุ่นใหม่กว่า 60 ชีวิต ที่มีความตั้งใจจะกลับไปพัฒนาหรือสานต่อเจตนารมณ์ของครอบครัวในการทำเกษตรกรรมเข้าร่วมโครงการ ร่วมสัมผัสกับการทำเกษตรตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ผ่านการเรียนรู้จากเกษตรกรตัวจริง ในพื้นที่จริง และผู้มีประสบการณ์จริง พร้อมนำประสบการณ์กลับไปใช้พัฒนาวิถีการทำการเกษตรในแบบของตัวเอง โดยมีระยะเวลาในการเรียนรู้ 4 วันเต็ม ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-หนองผักบุ้ง จ.เพชรบูรณ์

ไฮไลท์ของกิจกรรมในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้สัมผัสกับกิจกรรม Real Life รับฟังองค์ความรู้จากผู้ประสบความสำเร็จด้านการเกษตร มาเล่าถึงชีวิตจริง ในจุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นผู้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน  นอกจากนี้ยังได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์จริงกับกิจกรรมเรียนรู้ Smart Farming Experience จากนวัตกรรมและเครื่องจักรกลการเกษตรที่จะได้ทั้งการทดลองทำจริง ลงมือจริง วางแผนจริงด้วยตนเอง ปิดท้ายกิจกรรมด้วย การออกแบบแผนการเกษตรในอนาคตของตัวเองเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนสามารถนำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปต่อยอดและพัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน

“สยามคูโบต้ามุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างประสบการณ์ด้านการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เติบโตไปเป็น Smart Farmer ที่นำความรู้และความสามารถมาใช้พัฒนาภาคการเกษตร พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายที่เชื่อมโยงเกษตรกรรุ่นใหม่สู่การต่อยอดในการทำงาน และสานต่ออาชีพเกษตรกรของครอบครัว ตลอดจนเป็นแรงผลักดันในการดึงศักยภาพตัวเองออกมา เพื่อให้ทุกคนเชื่อว่าสามารถเป็นได้มากกว่าเกษตรกร”

นางบุญเลิศ ปราบภัย ประธานศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-หนองผักบุ้ง จ.เพชรบูรณ์  กล่าวว่า ขอบคุณที่คูโบต้าเลือกศูนย์เรียนรู้แหล่งนี้ เป็น สถานที่ทำกิจกรรมการ   ถือว่าเป็นการยกระดับกลุ่ม เพราะอย่างน้อยนักศึกษา 60 คนที่ร่วมกิจกรรม มาจากหลายพื้นที่ จะเป็นตัวช่วยทำให้คนทั่วไปรู้จัดผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมากขึ้น  เชื่อว่าในอนาคตเด็กๆที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะนำความรู้ความสามารถไปพัฒนาภาคการเกษตรของไทย รวมทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ในการลดต้นทุน เพิ่มผลิต  และที่สำคัญคือ สินค้าเกษตรไทยจะมีคุณภาพตามความต้องการของตลาดและเป็นหนึ่งในตลาดโลกของภาคการเกษตร