เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 นายเกียรติภูมิ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว จ.กระบี่ ผู้เสียหายเป็นพนักงานโรงแรม เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังนั่งรถประจำทัวร์หนีตายมาจากเกาะยาวใหญ่ จ.พังงา เนื่องจากถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขู่ตามฆ่า
นายเกียรติภูมิ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนขี่รถอยู่แถวที่พัก อยู่ๆ ถูกรถคู่กรณีขับมาเกือบเฉี่ยวชน จึงว่ากล่าวตักเตือนเป็นภาษาใต้ไป เนื่องจากเห็นว่าคู่กรณีอายุยังน้อย แล้วขับรถสวนกินเลนเข้ามาช่วงทางโค้งเกือบเกิดอุบัติเหตุ แต่คู่กรณีกลับไม่พอใจ จึงไปเรียกพ่อซึ่งอยู่บริเวณนั้นพอดีมา และเมื่อพ่อคู่กรณีมาถึงก็ได้ให้ลูกชายขอโทษ ตนจึงพูดเตือนอีกครั้งหนึ่งว่าให้ขับรถอย่างระมัดระวังต่อหน้าพ่อเขาอีกครั้ง ทำให้พ่อคู่กรณีไม่พอใจ เพราะถูกมองว่าไปสอนเขาต่อหน้าพ่อเขาที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ทำให้เกิดปากเสียงและชกต่อยกันเกิดขึ้น และมีการใช้อาวุธมีด วิ่งไล่แทงตนไปจนถึงห้องพัก แต่เรื่องไม่จบเพราะฝ่ายคู่กรณีกลับไปเอาอาวุธปืน เอ็ม 16 ย้อนกลับมาไล่ล่าตนที่ห้องพัก และยิงปืนขู่หน้าห้อง
ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า กรณีนี้ตนได้แจ้งตำรวจ สภ.เกาะยาว ตั้งแต่เกิดเหตุชกต่อยกันแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาระงับเหตุ แต่ทำได้เพียงยุติความขัดแย้งเบื้องต้น และพอมาเจอกับพ่อของเด็กคู่กรณี สิ่งแรกที่ตำรวจทำคือ ยกมือไหว้ของให้ยุติเรื่อง ทั้งที่เห็นว่าพ่อของเด็กถือปืนเอ็ม 16 อยู่ในมือ แต่กลับไม่ได้มีการดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมแนะนำตนให้หลบไปอยู่ที่ปลอดภัย และตำรวจยังแนะนำอีกว่า ให้มาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตำรวจในพื้นที่คงช่วยอะไรไม่ได้
“ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกและภรรยา ที่ขณะนี้ยังอยู่ที่เกาะยาว เพราะคู่กรณีประกาศขู่จะเอาชีวิตให้ได้ คู่กรณียังเคยต้องคดีพยายามฆ่ามาแล้ว เนื่องจากก่อเหตุยิงคนบนเกาะ” นายเกียรติภูมิ กล่าว
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ ที่นักการเมืองยังต้องเกรงใจ แต่ตนมองว่า มันอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายและนำอาวุธสงครามมายิงข่มขู่ชาวบ้าน หลังจากนี้จะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อติดตามคดีในพื้นที่ และในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) จะพาผู้เสียหายไปเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน ที่กระทรวงยุติธรรม
“ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายการใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุ ถ้าเป็นแบบนี้โรงพักก็อยู่ไม่ได้หรอกครับ หากกรณีนี้จับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ เดี๋ยวจะเอาปี๊บไปให้ที่จังหวัดพังงา” นายเอกภพ กล่าวทิ้งท้าย