เมื่อวันที่ 3 ส.ค. น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาเนื้อหาข่าวสารและข้อมูลที่เข้าข่ายผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าประชาชนให้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว กว่า 22.3 ล้านคน (ข้อมูล ณ เวลา 10.00 น. วันที่ 3 ส.ค. 67)

ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้มอบหมายให้คณะทำงานติดตามและประเมินสถานการณ์ พร้อมเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมออนไลน์ที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานดิจิทัลของประชาชน และเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti Fake New Center หรือ AFNC) จึงได้ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินสถานการณ์ พร้อมบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการสรุปผลการประเมินเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา พบข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และได้มีการตรวจสอบยืนยันโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทำการชี้แจงให้ประชาชนทราบแล้วทั้งหมด 5 เรื่อง ดังนี้

เรื่องที่ 1 รัฐบาลเปิดเพจทางรัฐใหม่ ชื่อว่า ทางรัฐ-เงินดิจิทัล

เรื่องที่ 2 สามารถเปิดรับแลกเงินดิจิทัล 10,000 บาท และนำเงินสดไปใช้ได้

เรื่องที่ 3 ธปท. เตือน แอปทางรัฐ ไร้ความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

เรื่องที่ 4 ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตีตกเงินดิจิตอลวอลเล็ต

เรื่องที่ 5 แอปทางรัฐ แสดงข้อมูลเครดิตบูโร บัญชีติดหนี้ ใบสั่งจราจร ข้อมูลโดนฟ้องศาล หลังลงทะเบียน 10,000 บาท

“จะเห็นได้ว่าข่าวปลอมเหล่านี้ ได้อ้างถึงหน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข่าวปลอม และข้อมูลที่บิดเบือน แต่เมื่อมีการตรวจสอบกับหน่วยงานที่มีการกล่าวอ้างแล้วพบว่า ไม่เป็นความจริง โดยข่าวปลอม หรือข้อมูลบิดเบือนดังกล่าว ถือเป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ร้ายแรง อันเป็นการสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และความเสียหายต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจมากที่สุดอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยกระทรวงดีอี มีความห่วงใยประชาชน จึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าเชื่อ อย่าแชร์ข่าวปลอมดังกล่าว เพื่อตัดวงจรการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพ โดยหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สามารถโทรฯ สายด่วน Digital Wallet 1111 ตลอด 24 ชม.” น.ส.วงศ์อะเคื้อ กล่าว