ยังคงเป็นกระแสที่หลายคนให้ความสนใจกันล้นหลาม กรณีที่มีนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ตั้งคำถามเกี่ยวกับการพบร่องรอยสัตว์ดึกดำบรรพ์ หลังได้เดินทางไปท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ปรากฏว่าพบรอยเท้าคล้ายไดโนเสาร์ ซึ่งมีการถกถามว่าของจริงมั้ย หรือเป็นเพียงฝีมือมนุษย์สร้างขึ้นมา
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกมาโพสต์ความคืบหน้าหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยระบุว่า 3 สิงหาคม 2567 นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายลำยอง ศรีเสวก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ว่ามีผู้พบเห็นร่องรอยลักษณะคล้ายรอยเท้าไดโนเสาร์ บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ใกล้ลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ซึ่งนายลำยอง ศรีเสวก หน.อช.ภูหินร่องกล้า ได้ดำเนินการประสานกับสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 เพื่อเข้ามาร่วมกันดำเนินการสำรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ต่อมานายโกเมศ จึงได้ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2, ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณี, น.ส.บุษยา เพ็ชร์มา ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานฯ และผู้ค้นพบคนแรก ซึ่งเป็นครอบครัวนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ แจ้งว่าค้นพบร่องรอยบริเวณดังกล่าว ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่พบร่องรอย คล้ายรอยเท้าไดโนเสาร์ ณ ลานหินบริเวณลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากกรณีที่เคยมีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า เคยมีผู้พบร่องรอยบนลานหินลักษณะคล้ายรอยเท้าไดโนเสาร์ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มาก่อนหน้านี้
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากกรมทรัพยากรธรณี พบว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์จริง ประทับอยู่บนลานหินทรายและหินโคลน จัดอยู่ในหมวดหินภูพาน ยุคครีเทเชียสตอนต้น อายุประมาณ 120 ล้านปีก่อน กระจายอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางเมตร รอยเท้าไดโนเสาร์ที่พบมีจำนวนมากกว่า 10 รอย
และแสดงเป็นแนวทางเดิน จำนวนอย่างน้อย 2 แนว ส่วนใหญ่เป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์กินเนื้อเดินสองขา กลุ่มเทอโรพอดขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ แสดงรอยประทับของของนิ้วเท้าข้างละสามนิ้วชัดเจน ทั้งนี้ คณะสำรวจจะลงพื้นที่สำรวจเพิ่มเติม และเก็บข้อมูลทางวิชาการ เพื่อศึกษาวิจัย และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อการเรียนรู้ต่อไป…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช