เซย์ฮัลโหลแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่รักของ “นูน่าเมี้ยน” ทุกคนนะคะ มาเจอกับนูน่าและคอมลัมน์บันทิงสุดฮอตอย่าง “SeoulStation” อีกเช่นเคย กับเรื่องราวของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีที่จะมาอัปเดตกันพิเศษ และเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ เพื่อแฟนๆ โดยในสัปดาห์นี้นูน่าจะพูดถึงรายการสุดฮอตเมื่อปี 2020 อย่าง “Road to Kingdom” ทาง “Mnet” ซึ่งเป็นรายเซอร์ไววัลชื่อดังนำกลุ่มบอยกรุ๊ปเกาหลีมาแสดงความสามารถในศึกดวลกันอย่างดุเดือด และได้ผู้ชนะเพื่อทำการแข่งขันต่อที่รายการ “Kingdom” หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า “Kingdom: Legendary War” และได้ผู้ชนะในรายการได้แก่ “Stray Kids” โดยคนดูต่างยอมรับว่าทุกโชว์ของ Stray Kids ล้วนทรงพลัง หนักแน่น และน่าติดตาม พร้อมกับตระหนักถึงความสามารถของพวกเขา จนซึ่งส่งผลให้พวกเขาเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น และขยายฐานแฟนคลับให้มากขึ้นอีกด้วย

โดยในปี 2024 นี้ Road to Kingdom 2 ก็ได้กลับมาให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นอีกครั้งในชื่อ “Road to Kingdom 2” พร้อมมากับรายการในรูปแบบใหม่ นั่นก็คือจะไม่ได้คัดเลือกทีมที่ชนะไปแข่งรายการ “KINGDOM” แบบที่ผ่านมา แต่จะเป็นเป็นรูปแบบ “K-Pop Boy Group Rising Project” ที่จะพิจารณาทีมที่เต็มไปด้วยความสามารถและศักยภาพเหล่านี้ใหม่อีกครั้งและฉายแสงไปที่พวกเขาให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งซีซั่นนี้ทาง Mnet ได้ประกาศไลน์อัปผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 7 วงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แก่ THE NEW SIX, The Crew One (ATBO & JUST B), 8TURN, ONEUS, YOUNITE, CRAVITY และ TEMPEST

บอกเลยหลังจากประกาศไลน์อัปมาเรียบร้อยแล้ว ยิ่งสร้างความตื่นเต้น และความคาดหวังของเหล่าแฟนคลับกันไม่น้อย ด้วยความสามารถ และศักยภาพของเหล่าบอยกรุ๊ปทั้ง 7 วงที่จะมาทำให้เวทีลุกเป็นไฟอย่างร้อนแรง และจะทำให้รายการในครั้งนี้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะสนุก และรอลุ้นความเซอร์ไพร้ส์ไปด้วยกัน “นูน่าเมี้ยน” จึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับหนุ่มๆ ทั้ง 7 วง ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก!!

ประเดิมที่วงแรก “ONEUS” วงพี่ใหญ่ที่เดบิ้วต์มานานที่สุดในรายการซีซั่นนี้ จากสังกัดค่าย “Rainbow bridge World” (RBW) เดบิวต์วันที่ 9 มกราคม 2019 อายุวง 5 ปี โดยพวกเขาเคยเข้าร่วมในซีซั่นแรกของ Road to Kingdom ด้วยสมาชิกทั้งหมด 6 คน แต่ปัจจุบัน ONEUS ได้เข้าร่วมการแข่งขันในซีซั่นด้วยสมากชิก 5 ซึ่งประกอบไปด้วย ซอโฮ, อีโด, กอนฮี, ฮวานอุง และชีอน พวกเขาเดบิวต์อัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า “Light Us” พร้อมกับซิงเกิล “Valkyrie” โดยพวกเขามีเพลงฮิต และเป็นรู้จักมากมาย อาทิ Same Scent, No Diggity, Black Mirror, Bring It On และเพลง Luna ซึ่งเพลงนี้ทำให้พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะรับถ้วยอันดับหนึ่งรายการเพลงได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดบิวต์ ในรายการ “Show Champion”

ONEUS เป็นอีกหนึ่งวงที่ถูกจับตามองในทุกๆ การคัมแบ๊ก เพราะในแต่ละคัมแบ๊กพวกเขาจะมาในคอนเซ็ปต์สไตล์ที่หลากหลาย และความสามารถในการสร้างสรรค์คอนเซ็ปต์นี้ก็ทำให้แฟนๆ ได้เห็นพวกเขาทำมันออกมาในซีซั่นแรก พร้อมกับแสดงศักยภาพด้านการเต้น การร้อง และโชว์เพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ในฐานะ “รุ่นพี่” ที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันมาแล้ว บอกได้เลยว่าไม่ง่ายแน่นอนทำให้ความคาดหวังจากแฟนๆ เพิ่มสูงขึ้นไปด้วย

ตามมาด้วย “CRAVITY” ศิลปินรุ่นพี่สังกัดค่าย “Starship Entertainment” ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 9 คน ได้แก่ เซริม, แอลรอน, จองโม, อูบิน, วอนจิน, มินฮี, ฮยองจุน, แทยอง และซองมิน เดบิวต์วันที่ 14 เมษายน 2020 ด้วยเพลงไตเติ้ลชื่อ “Break all the Rules” จากมินิอัลบั้มแรก “Season 1. Hideout : Remember Who We Are” โดยสมาชิกส่วนหนึ่งของ CRAVITY เป็นที่รู้จัก และคุ้นหน้าคุ้นตาจากรายการเซอร์ไวเวิลชื่อดังอย่าง Produce x 101 ถึง 4 คน ได้แก่ จองโม, วอนจิน, มินฮี และ ฮยองจุน แข่งขันจนเข้าถึงรอบสุดท้าย โดย มินฮี และ ฮยองจุน ได้เดบิวต์เป็นสมาชิกวง X1 ด้วย

CRAVITY เปิดตัวด้วยอันดับสูงสุดใน “แกออนชาร์ตอัลบั้ม” มีรายงานว่าอัลบั้มมียอดขายมากกว่า 100,000 ชุด ในเดือนเมษายน 2020 ทำให้พวกเขาเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่อัลบั้มขายดีที่สุดของเกาหลีใต้ในปี 2020 ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้ติดชาร์ตอันดับใน “Billboard Social 50 Chart” อันดับที่ 12 พวกเขาเป็นวงเกาหลีใต้ที่เร็วที่สุดอันดับ 5 ในการขึ้นชาร์ต Social 50 รวมถึงการเป็นศิลปินหน้าใหม่ชาวเกาหลีใต้เพียงวงเดียวที่ขึ้นชาร์ต Social 50 ของ Billboard ในปี 2020 จนได้รับรางวัล “ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี” และ “การชนะรายการเพลง” ความสำเร็จล่าสุดของพวกเขาด้วยเพลงไตเติ้ล “Love or Die” จากมินิอัลบั้มที่ 7 ในรายการ “Music Bank” พร้อมตอกย้ำจุดยืนของพวกเขาในฐานะดาวรุ่ง K-pop อีกด้วย 

มาต่อที่วง “THE CREW ONE” จากสังกัดค่าย “IST Entertainment” ซึ่งเป็นกลุ่มโปรเจ็กต์พิเศษที่ก่อตั้งโดยสมาชิกวง “ATBO” และ “JUST B” เพื่อสร้างความร่วมมือใหม่ การมีส่วนร่วมใน Road to Kingdom ช่วยเพิ่มองค์ประกอบที่น่าสนใจให้กับรายชื่อศิลปิน และทำให้คาดหวังได้ถึงการแสดงอันทรงพลังของพวกเขา 

โดยวง “ATBO” ย่อมาจาก “At The Beginning of Originality” ซึ่งหมายถึง “จุดเริ่มต้นของความฝัน” เดิมชื่อ “ABO” แต่เนื่องจากแฟน ๆ กังวลว่าชื่อนั้นอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการอ้างอิงถึง Omegaverse หรือที่เรียกว่า “A/B/O” จึงมีการเปลี่ยนแปลง เดบิ้วต์วันที่ 27 กรกฎาคม 2022 และมีสมาชิก 6 คน ประกอบไปด้วย จุนซอก, จุนมิน, ฮยอนจุน, ซึงฮวาน, ยอนกยู และวอนบิน พวกเขามาจากรายการเซอร์ไวรัลของค่ายอย่างรายการ “The Origin – A, B, Or What” เดบิ้วต์ด้วยอัลบั้ม “The Beginning” 

ส่วนวง “JUST B” มาจากคำว่า “JUST BURN” ที่แสดงถึงความมุ่งมั่น และพลังความตั้งใจของพวกเขาในการทำทุกสิ่ง อย่างเต็มที่เหมือนกับแรงเผาไหม้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดนสมาชิกของวงส่วนใหญ่ล้วนมีประสบการณ์และเคยปรากฏตัวให้เราได้คุ้นหน้าคุ้นตากันไม่น้อย ทั้งจากรายการ Under 19 , The Fan และ I-LAND ซึ่งมีสมาชิก 6 คน ประกอบไปด้วย อิมจีมิน, กอนอู, เบน, JM, DY และ ซังอู พวหเขาเดบิวต์วันที่ 30 มิถุนายน 2021 และมีเพลงฮิตมากมาย อาทิ DAMAGE, Get Away, My Way’

THE CREW ONE เป็นอีกหนึ่งวงที่หลายคนจับตามองไม่น้อย เนื่องจากสมาชิกทั้งของ ATBO และ JUST B ต่างมีประสบการณ์ผ่านรายการเซอร์ไววัลมาอย่างมากมาก พร้อมทั้งเป็นตัวเต็งของแต่ละรายการด้วย นอกจากจากนี้พวกเขายังอยู่ภายใต้กานดูแลของ IST Entertainment ซึ่งเป็นค่ายต้นสังกัดของ  THE BOYZ ผู้ชนะรายการ Road to Kingdom ซีซั่นที่แล้วด้วย

มาต่อกันที่วง “TEMPEST” จากทางค่าย “Yuehua Entertainment” ที่ได้รวบรวมเมมเบอร์ที่มีสีสันต่างกันทั้งหมด 7 คน มาอยู่ด้วยกันประกอบไปด้วยสมาชิกได้แก่ ลูว์, ฮันบิน, ฮยองซอบ, ฮยอก, อึนชาน, ฮวารัง และ แทแร และเป็นอีกหนึ่งวงที่สมาชิกเคยเข้าแข่งขันรายการ Produce x 101 ซีซั่น 2 ได้แก่ ลูว์ และ ฮยองซอบ นอกจากนี้ยังมี ฮันบิน ที่เคยเข้าแข่งขันรายการ I-Land ด้วย พวกเขาเดบิวต์วันที่ 2 มีนาคม 2022 ด้วยมินิอัลบั้มชุดแรก “It’s Me, It’s We” กับซิงเกิลเปิดตัวชื่อ “Bad News”

ซึ่งผลงานทั้งหมดที่พวกเขาสร้างสรรค์มาตลอด 2 ปี ก็สามารถเข้ายึดครองชาร์ตเพลง และยึดพื้นที่หัวใจแฟนๆ ได้อย่างมากมาย พร้อมถ้วยรางวัลจากรายการเพลงถึง 3 ถ้วย ได้แก่ เพลง “Dragon” จากรายการ Show Champion (ถ้วยรางวัลแรกภายในปีที่เดบิวต์) และเพลง “Vroom Vroom” 2 ถ้วย จากรายการ Show Champion กับ Music Bank (Music Bank รายการเพลงช่องสาธารณะ) นอกจากผลงานเพลง “LIGHTHOUSE” จากอัลบั้มล่าสุดยังได้ถูกจัดว่าเป็นอีกหนึ่งเพลงใน “เพลง K-pop ที่ดีที่สุด” ในครึ่งปีแรกของปี 2024 อีกด้วย

ซึ่งตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเดบิวต์ก็นับเวลากว่า 2 ปีแล้ว โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหนุ่มๆ TEMPEST ได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพออกมากอย่างมากมาย พร้อมทั้งประสบความสำเร็จอย่างมากในเวทีระดับโลก โดยสมาชิกแต่ละคนมีพลังความสดใสทั้งในเพลงและเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่เต็มไปความเฟรช พร้อมทั้งมีโดดเด่น และความสามารถที่แตกต่างกันออกไป

ต่อด้วยวง “YOUNITE” จากค่ายเพลงที่มีชื่อว่า “Brand New Music” เดบิวต์วันที่  20 เมษายน 2022 ซึ่งปัจจุบันประกอบไปด้วยสมาชิก 8 คน ซึ่งได้แก่ อึนโฮ, อึนซัง, สตีฟ, ฮยองซอก, อูโน, เดย์,  คยองมุน และ ชีอน โดยมีอดีตสมาชิกวง X1 อย่าง อึนซัง และมี คยองมุน ซึ่งเป็นอดีตเด็กฝึกของค่าย JYP Entertainment ด้วย โดยพวกเขาทั้ง 8 คน เดบิ้วต์ด้วยอัลบั้ม “Youni-Birth” พร้อมเพลง “1 of 9” 

โดยความหมายของ YOUNITEอ่านว่า “ยู-ไนท์” ย่อมาจาก “YOU and I : we are connected” นอกจากนี้แล้วยังมีการเปรียบเมมเบอร์แต่ละคนแทนดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาลและจะมีโค้ดในการแทนเมมเบอร์แต่ละคนอีกด้วย ซึ่งพวกเขาเป็นอีกหนึ่งวงที่เต็มไปด้วยความสามารถอันเปี่ยมล้น ทั้งการร้องเพลง และการแต่งเพลง ที่มาพร้อมความสดใสให้แฟนๆ ได้เห็นในรายการนี้

ด้านวง “The New Six” (TNX) ศิลปินเบอร์แรกจากจากสังกัดค่าย “P NATION” ของนักร้องคนดัง “PSY” โดยสมาชิกของวงได้รับการคัดเลือกมาจากการแข่งขันรายการเซอร์ไววัล “LOUD” ทางช่อง SBSมีสมาชิกทั้งหมด 6 คนด้วยกัน ประกอบไปด้วย คยองจุน, จุนฮยอก, ฮยอนซู, แทฮุน, วี และ ซองจุน ซึ่งเดบิวต์อย่างเป็นทางการเวันที่ 17 พฤษภาคม 2022 ด้วยมินิอัลบั้มชุดแรกของวงที่มีชื่อว่า “Way Up” ทำให้พวกเขาเป็นอีกหนึ่งวงที่เป็นที่รู้จักในเรื่องความสามารถที่หลากหลาย และมีความสามารถที่โดดเด่นอีกด้วย

และตามมาที่วงสุดท้าย วงน้องเล็ก “8TURN” สังกัดค่าย MNH Entertainment ที่มีสมาชิกทั้งหมด 8 คน ได้แก่ มยองโฮ, แจยุน, มินโฮ, ยุนซอง, แฮมิน, คยองมิน, ยุนกยู และ ซึงฮอน โดยพวกเขาเดบิวต์อย่างเป็นทางการวันที่ 30 มกราคม 2023 ด้วยการปล่อยอัลบั้มแรกในชื่อ “8TURNRISING” ซึ่งจะประกอบไปด้วย 5 เพลง ได้แก่ WE, TIC TAC, WONDER, Say My Name และ Heartache โดยสไตล์เพลงส่วนใหญ่ของพวกเขาจะมาในแนวสนุกๆ พร้อมกับบีทมันส์ๆ ให้ทุกคนได้โยกไปด้วยกัน ซึ่งบอกเลยว่าแม้จะเป็นน้องเล็กแต่ก็เผ็ดจี๊ดไม่แพ้พี่ๆ แน่นอน

สำหรับ “Road to Kingdom 2” มีกำหนอดออนแอร์ให้แฟนๆ ได้รับชมพร้อมในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งคาดว่าตอนนี้หนุ่มๆ ทั้ง 7 วงก็คงซุ่มซ้อมกันอย่างเต็ม เพื่อโชว์ศักยภาพ และความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดให้เหล่าผู้ชมได้รับชมกัน ยังไงแฟนๆ ทุกคนทำความรู้จักกันครับทั้ง 7 วงแล้ว ฝากเป็นกำลังใจ และติดตามเชียร์หนุ่มๆ กันด้วยนะคะ!.


คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”