เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.) พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ แถลงข่าวจับกุม นายพิเชษฐ อายุ 34 ปี และนายตะวัน อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,300,000 เม็ด, คีตามีน 3 กิโลกรัม, รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยแฉล้มนิมิต 5 แยก 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.วรวิทย์ กล่าวว่า เครือข่ายยาเสพติดนี้เป็นกลุ่มรองเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจับกุมไปแล้ว เมื่อเดือน เม.ย.66 ครั้งนั้นได้ยาบ้า 2 แสนเม็ด ต่อมาครั้งนี้ 2 เมื่อเดือน เม.ย.67 ยึดยาไอซ์ 100 กว่ากิโลกรัม เฮโรอีน เคตามีนอีกบางส่วน จึงมีการเฝ้าติดตามเรื่อยมากระทั่งทราบว่ากลุ่มรองเมืองยังมีพฤติการขายยาบ้าอยู่ที่บริเวณถนนเจริญราษฎร์ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ส.ค. เวลาประมาณ 23.30 น. จึงมีการวางแผนจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 ราย คือ นายพิเชษฐ์ และนายตะวัน ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยทำการตรวจค้นยึดยาบ้าของกลางซุกซ่อนในรถยนต์ 5 แสนเม็ด และตรวจค้นบ้านพัก ยึดยาบ้าของกลางได้อีก 8 แสนเม็ด รวม 1.3 ล้านเม็ด และเคตามีน 3 กิโลกรัม พร้อมยึดรถยนต์ 1 คัน รถจยย.อีก 2 คัน โดยจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาใช้รถยนต์และรถจยย. ของกลาง ในการขนส่งยาเสพติด โดยมีการรับยาเสพติดจากพื้นที่บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และส่วนใหญ่จะกระจายยาเสพติดไปตามชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านถนนรองเมือง ปทุมวัน และย่านถนนเจริญราษฎร์ พระราม 3
พล.ต.ต.วรวิทย์ กล่าวอีกว่า แพ็คเกจยาเสพติดลอตนี้คล้ายกับที่เคยจับกุมครั้งก่อนหน้า จะมีสัญลักษณ์เขียนระบุว่า ส้ม-แดง มีตัวหนังสือคล้ายกัน ลักษณะจะแบ่งเป็นสีแดง รูปเครื่องบิน F35 ส่วนสีส้มจะเป็นรูป ยูเอฟโอ (UFO) จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยมีประวัติถูกจับกุมมาแล้ว คือ นายเกี๊ยก เคยถูกจับข้อหาพยายามฆ่า ถูกศาลตัดสินแล้ว และมีหมายจับคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จึงอายัดตัวเตรียมส่งดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว ส่วนนายม้อย เคยถูกจับในข้อหาการครอบครองอาวุธปืน โดยจะมีการขยายผลจากกล้องวงจรปิด และหาผู้ขบวนการในเครือข่ายนี้ต่อไป
เบื้องต้นแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งสองรายในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป