เมื่อวันที่ 1 ส.ค. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีสามีคือ คุณบอย (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี อาชีพวิศวกร เข้าขอความช่วยเหลือกับ กัน จอมพลัง กรณีภรรยาอายุ 20 ปี แอบไปคบชายชู้ อายุ 21 ปี เป็นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี มีคลิปเหตุการณ์ตอนสามีจับได้คาหนังคาเขา ตอนที่เมียกับชายชู้ทำกิจกรรมร่วมกันภายในรถ จึงได้ทำร้ายฝ่ายชายชู้บาดเจ็บกลับไป ก่อนที่ชายชู้จะยกพวกมาปิดล้อมบ้านเพื่อแก้แค้นเอาคืน ทำให้คุณบอย ต้องอยู่ด้วยความกลัวและหวาดระแวง
คุณบอย กล่าวว่า ตนคบหากับภรรยามานาน 3 ปี จดทะเบียนสมรสกันมานาน 1 ปี ตั้งแต่ก่อนจะจดทะเบียนสมรสกัน จับได้หลายครั้งว่า ภรรยานอกใจไปคุยกับชายคนอื่น ถึงขนาดจับได้ว่าแอบนัดผู้ชายไปม่านรูด แต่ทุกครั้งที่จับได้ ป้าที่เลี้ยงดูภรรยา และเป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเขา มักจะขอร้องไว้เสมอ เพราะภรรยาของตนมีลูกติด ตนเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฐานะมั่นคงพอจะเลี้ยงดูเขา และรับเขาได้ ตนก็ใจอ่อนทุกครั้ง ดูแลทั้งเขา ลูกติดเขา รวมทั้งหลาน (ลูกพี่ชายของเขาที่ตนรับดูแล)
มาระยะหลัง ตนทำโอที กลับบ้านดึก กลับมาบ้าน ภรรยาก็ปฏิเสธการร่วมหลับนอนด้วย ลูกติดของภรรยาบอกว่า แม่คุยกับผู้ชาย แต่แม่ไม่ให้บอก ตนเคยไปเช็กมือถือไทม์ไลน์การเดินทางในแอปมือถือของเขา พบว่าภรรยาไปสนามฟุตซอลแห่งหนึ่ง ไปถึง 11 ครั้ง ไม่รู้ว่าไปทำไม
วันเกิดเหตุ กระทั่งเวลา 20.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังเลิกงาน ตนได้เช็ก GPS มือถือของภรรยาพบว่า อยู่ที่สนามฟุตซอลแห่งนี้อีก จึงแอบตามไปดู พบว่าภรรยาอยู่ในรถมูลนิธิ มีม่านปิดบังรอบด้าน แต่ติดเครื่องยนต์อยู่ ตนจึงเปิดประตูรถพบภรรยากำลังทำกิจกรรมทางเพศกับชายชู้ที่เบาะด้านหลังรถ ด้วยความโกรธจึงเตะผู้ชายจนดั้งจมูกหัก ก่อนที่มีกิจกรรมทางเพศภายในรถ ภรรยาได้นำลูกและหลาน ไปนั่งรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆ กัน
คุณบอย กล่าวว่า ตนพาภรรยา ลูกและหลานกลับบ้าน มีการเจรจาตกลงกัน เพราะภรรยาเคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะปรับความเข้าใจกันนาน 30 นาที ระหว่างนั้นฝ่ายชายชู้ได้ไปตามพรรคพวกที่เป็นอาสาของมูลนิธิแห่งหนึ่งในศรีราชา บุกเข้ามาที่บ้านนับสิบคน โดยมีพ่อของชายชู้มาตะโกนท้าทายให้ตนออกมานอกบ้าน แต่ตนไม่ออกไป พร้อมแจ้งตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ให้มาช่วยระงับเหตุ หลังเกิดเหตุ ตนได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ด้านป้าเรียง ป้าที่เลี้ยงดู บี ภรรยาของนายบอย บอกว่า ที่นายบอยบอกว่าป้าเรียงขอมาตลอด ขอให้โอกาสหลานเรานั้น ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยไปก้าวก่ายชีวิตของหลาน แค่เวลาที่เขามีปัญหากัน ตนจะให้เขาคุยกัน เคลียร์กันเองตลอด
ส่วนบี เล่าเหตุการณ์ในมุมของตัวเอง ยืนยันว่า ในส่วนที่ผิด ตนยอมรับว่าผิด แต่ส่วนที่สามีกล่าวหาไม่เป็นความจริง ตนก็ไม่ยอมเหมือนกัน ที่บอกว่าเราคุยซ้อน คุยคนนั้นคนนี้ช่วงก่อนมาจดทะเบียนสมรสกัน ขอยืนยันว่าไม่ได้จริงทั้งหมด
ชายชู้ที่เป็นประเด็นคนนี้ เขามาซื้อของที่ร้าน เขาสแกนจ่ายเงิน แล้วเอาชื่อป้าเราไปตามหาในเฟซบุ๊ก จนเจอเฟซบุ๊กเรา แล้วแอดมาชวนคุย เราคุยแล้วถูกใจก็พูดกันต่อ มีการออกไปเจอ ไปพูดคุยกันตามปกติ แต่ไม่เคยมีอะไรกัน
วันเกิดเหตุยอมรับว่าไปนั่งทำอะไรบางอย่างกับชายชู้จริงๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นมีอะไรกัน เสื้อผ้าตนก็ยังอยู่ครบ ตอนสามีจับได้ เขาก็เช็กหมดทุกอย่าง กลับบ้านไปเขาก็ยัง “เช็กของ” คือมีอะไรกับตนหลายครั้งในคืนเดียว ทำไมเรื่องนี้เขาไม่พูด
ส่วนที่เขาไปอ้างว่าป้ารู้เห็นเป็นใจ อ้างว่าป้ายุให้เลิกกันก็ไม่จริง ป้าเรียงชี้แจงว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเข้าข้างหลาน พยายามจะติดต่อสามีหลานเสมอ แต่เขาไม่รับโทรศัพท์ และไม่คิดจะโทรฯ กลับ หาว่าตนเองเข้าข้าง อ้างว่าเบอร์แปลกไม่รับโทรศัพท์ ซึ่งตนพยายามติดต่อมาโดยตลอด
ยืนยันว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ ตนเคยเรียกชายชู้มาพูดคุยและบอกว่า “รู้นะคิดอะไรกันอยู่ แต่ให้ถอยห่าง เพราะฝ่ายหญิงมีลูกมีครอบครัว และมีทะเบียนสมรสแล้ว ให้เลิกติดต่อ” แต่ตนเองไม่ทราบว่าทั้งสองยังไม่เลิกกัน ซึ่งตนเองได้เตือนแล้วทุกอย่าง
ส่วนเรื่องเงิน เรื่องค่าใช้จ่าย ที่ฝ่ายชายอ้างว่าช่วยดูแลตน เดือนละ 20,000 บาท คุณบีขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ตรวจสอบเอกสารสลิปเงินย้อนหลังได้ ฝ่ายชายให้ค่าดูแลแค่ 3,000-4,000 บาทต่อเดือน ตนไม่ได้เกาะเขากิน ที่เขาบอกว่าเขาดูแลตนดี ก็ไม่ได้ดีอย่างที่เขาพูดขนาดนั้น ตนก็ยอมทนลำบากมานาน
ยอมรับว่าเขาไม่ได้ดูแลเราดีขนาดนั้น ตนเจอคนถูกใจ ก็ไปกับเขา ก็ยอมรับตรงๆ แบบนี้ มีหลายคนบอกว่ารอต่อคิวเลยผู้ชายดีๆ แบบนี้ ก็อยากบอกว่า ตนก็เคยคิดแบบนี้มาก่อน แต่พอจดทะเบียนกันจริง ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เรามีลูก ก็อยากให้ลูกสบาย ก็ต้องพูดตรงๆ กันแบบนี้ ถ้ารู้ว่าเขามีหนี้ติดตัวก้อนโต ตนก็ไม่จดทะเบียนอยู่แล้ว
แต่ถามว่า ถ้าทนลำบากขนาดนี้ ทำไมไม่เลิก ตนก็ไม่กล้าจะบอกเลิกเขา ใช้วิธีหาความสุขชั่วครั้งชั่วคราวเอา แต่ระหว่างที่ไปมีคนอื่น ตนก็ยังดูแลเขาอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ทนายแก้วบอกว่าจะอ้างแบบนี้ไม่ได้ ในเมื่อมีทะเบียนสมรสค้ำคอ การที่เราไปทำแบบนี้มันผิดแน่นอน สามีสามารถฟ้องชู้ เอาค่าเสียหายอะไรต่างๆ ได้หมด
และเมื่อย้อนกลับมาถามว่า แล้วเจอเหตุการณ์ขนาดนี้ ทำไมคุณบอยไม่ยอมเลิก คุณบอยก็บอกว่าตนเป็นคนเห็นใจคน กลัวว่าเลิกกันไปแล้วเขาจะลำบาก เด็กๆ จะลำบาก แต่ครั้งนี้มันหนักหนาเกินไปแล้ว ตนรับไม่ไหว ภาพที่ตนเห็นมันจะติดค้างคาใจเราไปตลอดชีวิต มันลืมไม่ได้แน่นอน แล้วที่ลุกขึ้นมาเอาเรื่องเขา เพราะเห็นว่าเมียตนกับชายชู้ ยังไม่ยอมยุติความสัมพันธ์กัน ยังส่งแชตหากันแบบชู้สาวไม่เลิก
คุณบอยยังเอาแชตสยิวที่อ้างว่าเป็นภรรยา ส่งไปหาชายชู้ พูดคุยแบบลามก เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนยอมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คุณบีบอกว่า ชายชู้เขาบล็อกตนไปแล้ว จะไปพิมพ์หาเขาได้ยังไง ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนพิมพ์ แต่เป็นคุณบอยเป็นคนเอามือถือตนไปพิมพ์ สุดท้ายไล่บี้ไปมา คุณบอยก็ยอมรับว่าเป็นคนพิมพ์เอง เพราะอยากเช็กว่าเขายังคุยกันอยู่ไหม