เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 67 นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. แสดงความเห็นต่อกรณีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ที่หลายฝ่ายมองว่า  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสรับตำแหน่ง ว่า ตามหน้ากระดานการเมืองไทย มีแค่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเท่านั้น ส่วนกรณีที่วิเคราะห์ว่า นายอนุทิน จะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนั้น ตนมองว่า พรรคภูมิใจไทย มี 70 เสียง ไม่สามารถทำให้นายอนุทิน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ รวมไปถึงกรณีที่มองว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะได้รับตำแหน่ง แต่พรรคพลังประชารัฐมี สส.เพียง 40 คน แม้นำพรรคภูมิใจไทยรวมกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมี สส.เพียง 140 คนเท่านั้น

“นายอนุทินไม่มีสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่มีทางยอมให้นายอนุทินได้เป็น เพราะนายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภา ปรับ ครม. ปรับพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากนายอนุทินเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย แทนการอยู่กับนายเนวิน ชิดชอบ อาจมีความเป็นไปได้ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี” นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย กล่าวด้วยว่า ส่วน พล.อ.ประวิตร ที่มี สส. 40 คน ตนมองว่าไม่ต่างกับนายอนุทิน เมื่อนายอนุทินไม่มีสิทธิ พล.อ.ประวิตร จะมีสิทธิได้อย่างไร ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า อาจให้ สว.สีน้ำเงินช่วย แต่ปัจจุบัน สว.ไม่มีอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรีได้แล้ว ดังนั้นจึงเป็นการพูดไปเรื่อยที่จะให้ สว.โหวตนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี

นายวันชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ประเมินว่าพรรคภูมิใจไทยอาจรวมกับพรรคก้าวไกล ตนมองว่าไม่เกิดขึ้น เพราะตอนตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่าไม่เอาพรรคก้าวไกล ดังนั้นหากจะเปลี่ยนใจ อาจเป็นก้าวที่ผิด และใครที่คิดว่าทางนี้จะมีลุ้น ตนมองว่าเป็นคนที่มีความหวังแบบลมๆ แล้งๆ

เมื่อถามว่า หากนายอนุทินไม่ใช่นายกฯ คนต่อไป แล้วใครจะมาแทนกรณีที่นายเศรษฐาถูกถอดถอน นายวันชัย กล่าวว่า ต้องเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะมีปัจจัยที่ต้องพิจารณา คือ รอทำผลงานให้พร้อม รวมถึงปรับ ครม. และปรับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน.