สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่า ข้อตกลงกับโมฮัมเหม็ด และผู้ต้องหาอีก 2 คน ทำให้คดีที่ดำเนินมาอย่างยาวนานใกล้จะคลี่คลาย หลังเกิดการติดขัดในขั้นตอนการดำเนินการก่อนการไต่สวน เป็นเวลานานหลายปี และจำเลยยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำทหารบนอ่าวกวนตานาโม ในคิวบา
แม้แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวต่อสาธารณะ แต่ “เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส” รายงานว่า โมฮัมเหม็ด, นายวาลิด บิน อัตตาช และนายมุสตาฟา อัล-เฮาซาวี ตกลงที่จะรับสารภาพในข้อหาสมคบคิด เพื่อแลกกับการรับโทษจำคุกตลอดชีวิต แทนการพิจารณาคดีที่อาจทำให้พวกเขาได้รับโทษประหารชีวิต
อันที่จริง ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการระบุรายละเอียดโดยอัยการสหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว แต่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน ในเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 ไม่ได้เห็นด้วยเหมือนกันหมด โดยบางครอบครัวยังคงต้องการให้จำเลยได้รับโทษสูงสุดอย่างการประหารชีวิต
อนึ่ง โมฮัมเหม็ด ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือและฉลาดที่สุด ของนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อตั้งกลุ่มอัล-กออิดะห์ ก่อนถูกจับกุมในปากีสถาน เมื่อเดือน มี.ค. 2546 จากนั้นเขาก็ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำลับของสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) เป็นเวลา 3 ปี ก่อนถูกส่งตัวไปยังเรือนจำบนอ่าวกวนตานาโม เมื่อปี 2549
ทั้งนี้ เหตุวินาศกรรม 9/11 ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สร้างความตกตะลึงทั่วโลก หลังสลัดอากาศของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ก่อเหตุจี้เครื่องบินโดยสารพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์, อาคารเพนตากอนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และพยายามพุ่งชนอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งโมฮัมเหม็ดกล่าวว่า เขาเป็นผู้วางแผนก่อเหตุดังกล่าว “ตั้งแต่ต้นจนจบ”.
เครดิตภาพ : AFP