เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการบูรณาการร่วมระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. กับกองพันข่าวกรองทางทหาร (ขกท.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพเรือ บก.ส่วนควบคุมส่วนหน้า ชปพ.ศอ.ปส.ทร. (นสร.กร.) กรมทหารสารวัตรทหารอากาศ (สห.ทอ.) กรมทหารราบที่ 5 ศุลกากรภาคที่ 4 (ด่านศุลกากรสะเดา) และสถานีตำรวจภูธรสะเดา ตรวจยึดไอซ์ 300 กก. ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติการณ์นักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีหน้าที่ประสานงานจัดหายาเสพติด (ไอซ์) และลำเลียงไปส่งยังปลายทางประเทศมาเลเซีย กระทั่งพบว่านักค้ายาเสพติดดังกล่าวเตรียมลักลอบลำเลียงไอซ์จำนวนมากไปยังประเทศมาเลเซียในห้วงปลายเดือน ก.ค.นี้ จึงได้สั่งการให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย (Narcotics Crime Investigation Department : NCID) และมอบหมายเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ติดตามพฤติการณ์เครือข่ายดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยนำกล่องโฟมใส่รถบรรทุก เชื่อว่าภายในกล่องโฟมอาจเป็นยาเสพติด จึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น ก่อนพบไอซ์น้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ จำนวน 13 ใบ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายเบ็นซ์ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) บทบาทเป็นผู้สั่งการในการรับยาเสพติดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ให้นำกล่องโฟมไปส่งยังปลายทาง กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงขยายผลตรวจค้นบ้านพักอาศัยของนายเบ็นซ์ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และได้ตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เจ็ตสกี อาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุน สมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายเบ็นซ์อยู่ระหว่างหลบหนี แต่สำนักงาน ป.ป.ส. จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับและติดตามกลับมาดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งจะรีบเร่งประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย (Narcotics Crime Investigation Department : NCID) เพื่อสืบสวนขยายผลให้ไปถึงตัวเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในประเทศมาเลเซียต่อไป.
