เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท วาระ 2-3 ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว
ต่อมาช่วงบ่าย เข้าสู่มาตรา 4 งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมงบกลาง ให้ตั้งไว้ที่ 1.22 แสนล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดย กมธ.เสียงข้างน้อยจากพรรคก้าวไกล ต่างพากันอภิปรายท้วงติงการจัดงบกลางดังกล่าว มาทุ่มให้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด ควรกระจายไปใช้กับโครงการอื่นๆ ด้วย ตลอดจนการจัดงบรายจ่ายเพิ่มเติมในรูปแบบงบกลาง ทำให้ยากแก่การตรวจสอบ
โดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า อยากให้นำงบกลางไปใช้ช่วยเหลือบรรเทาค่าครองชีพประชาชน เช่น การตรึงราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทุกวัน การลงทุนเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ตามมา โดยรัฐบาลไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ท้องถิ่นจัดการกันเอง หลังจากสมาชิกอภิปรายครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 4 ตามที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอมาด้วยคะแนน 290 ต่อ 160 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 2
เช่นเดียวกับมาตรา 5 การให้กระทรวงการคลัง มีอำนาจสั่งจ่ายเงินแผ่นดินตามรายการและจำนวนเงินที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.นี้ หรือตามที่สำนักงบประมาณจะได้จัดสรร หรือตามที่จะได้มีการโอนเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย ที่ประชุมก็ให้ความเห็นชอบตามที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอมา.