ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม. ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เผยถึงการชำระหนี้จ้างเดินรถให้กับบีทีเอสว่า กทม. ต้องทำตามคำสั่งศาล โดยวันที่ 1 ส.ค. นี้ จะมีการประชุมใหญ่ เรื่องการใช้หนี้บีทีเอส เพราะในคำสั่งศาลมีรายละเอียดมากถึง 100 หน้า แต่ยืนยันว่า กทม. ต้องดำเนินการตามคำสั่งศาล การที่ศาลสั่งมาเป็นเรื่องดี ทำให้มีความชัดเจน และรู้ว่า กทม. ต้องดำเนินการอย่างไร

“ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า การไม่จ่ายเงินรถไฟฟ้าบีทีเอสไม่ได้เริ่มในสมัยผู้บริหาร กทม. ชุดนี้ แต่เรื่องเกิดขึ้นมาตั้งแต่ผู้บริหาร กทม. ในอดีต เมื่อผู้บริหารชุดนี้เข้ามาจะจ่ายเงินก็จ่ายไม่ได้ เพราะเรื่องอยู่ในขั้นตอนของศาล”

ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ การจ่ายเงินมีขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อศาลสั่งมาแล้ว กทม. เคารพ แต่เงินทุกบาทที่จะนำไปจ่ายต้องผ่านสภา กทม. ผู้บริหาร กทม. ไม่สามารถนำงบประมาณหรือเงินสะสมจ่ายขาดไปจ่ายหนี้ได้เลยทันที ขั้นตอนการดำเนินการของ กทม. ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 140 วัน แต่จะรีบดำเนินการ เนื่องจากมีเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องคำนึงถึง และเป็นตัวกดดันให้เร่งดำเนินการ

ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับค่อนข้างหนักใจ เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบกับประชาชนมาก เป็นการใช้เงินจำนวนมหาศาล ทำให้ส่งผลกระทบต่อโครงการอีกมากมาย ทั้งโรงเรียน การศึกษา รวมถึงผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากค่าจ้างของส่วนต่อขยายที่ 1 และที่ 2 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 8 พันล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท/ปี จึงต้องหาเงินส่วนต่างถึง 6 พันล้านบาท มาจ่ายสัญญาที่ทำไว้ในอนาคต ถือเป็นเรื่องหนัก เพราะ กทม. ได้รับงบประมาณเพียงปีละ 9 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวิธีแก้ไขส่วนต่างที่เกิดขึ้น โดยการปรับขึ้นค่าโดยสาร ก็ไม่สามารถที่จะผลักภาระไปให้ประชาชนได้ จึงต้องพิจารณาให้ละเอียดคร้้ง

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการชำระหนี้ให้กับบีทีเอสนั้น จะจ่ายหนี้ตามจำนวนที่เอกชนได้มีการแถลง 4 หมื่นล้านบาทหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า การจ่ายหนี้ต้องว่าไปตามคำสั่งศาลคดีแรกก่อน ส่วนคดีที่ค้างอยู่ในศาลต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะมีการจ่ายหนี้อย่างไร โดยจะต้องดำเนินทีละขั้นตอน และดูฐานะทางการเงินของ กทม. ประกอบด้วย

“ยืนยัน กทม. พยายามจะทำให้ดีที่สุด และที่ผ่านมา ได้มีการจ่ายหนี้ค่า E&M จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น เมื่อมีคำสั่งศาลมา ตนจะต้องดำเนินการหนี้ก้อนแรกก่อน ส่วนหนี้ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาจ่าย ส่วนมูลหนี้ทั้งหมดก็จะทยอยจ่ายให้เอกชน” ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ.