เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ผู้ต้องหาในคดีจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน ได้มายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังจากถูกนักโทษเด็ดขาด นำเหล็กแหลมมาแทง เพื่อหวังทำให้เสียชีวิต ขณะถูกคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยมีนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เป็นผู้มารับหนังสือร้องเรียน

ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า เสี่ยโป้ เคยย้ายเรือนจำมา 3 ครั้ง ครั้งแรกถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ต่อมาหลังศาลตัดสินจำคุก 50 ปี ในคดีชักชวนเล่นพนันออนไลน์และฟอกเงิน เสี่ยโป้ ได้ย้ายไปที่เรือนจำกลางคลองเปรม แต่มีปัญหากับนักโทษภายใน หลังจากนั้น เดือน ธ.ค. 66 เสี่ยโป้ จึงถูกย้ายไปที่เรือนจำกลางบางขวาง

หลังถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง ที่แดน 10 ได้ประมาณ 3 เดือน ช่วงเดือน ก.พ. 67 เสี่ยโป้ ถูกนักโทษเด็ดขาดจากแดน 2 ใช้เหล็กคล้ายกรรไกรข้างเดียว ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว เข้ามาแทงจากด้านหลัง ขณะที่เสี่ยโป้ อยู่ในระหว่างการนั่งพัก แต่ขณะเกิดเหตุนักโทษคนอื่นเห็น จึงเข้ามาล็อกตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ และผู้ก่อเหตุ คือ นายภิญโญ โพตะเภา นักโทษเด็ดขาดจากแดน 2

หลังจากนั้นนายภิญโญ ถูกดำเนินคดีในเรือนจำ และยอมรับสารภาพอ้างว่า “ทำร้ายเสี่ยโป้ เพราะอยากให้คนในเรือนจำยอมรับ ถ้าหากฆ่าเสี่ยโป้ได้ จะมีชื่อเสียง เพราะเสี่ยโป้เป็นคนดัง” แต่อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวและทนายความไม่เชื่อคำกล่าวอ้างนี้ เพราะเชื่อว่า อาจจะมีใบสั่งฆ่าเสี่ยโป้ อีกทั้งอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เหล็กแหลมนั้น อยู่ในห้องอุปกรณ์ของเรือนจำแล้วนักโทษเด็ดขาดมีกุญแจห้องอุปกรณ์ได้อย่างไร

ขณะที่เสี่ยโป้ เองยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากับผู้ที่ก่อเหตุเลย เสี่ยโป้ ถูกพยายามแทง 1 ครั้งแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นปัญหาเรื่องการกระทบกระทั่งกันปกติ

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า การมายื่นเรื่องวันนี้ มี 2 ประเด็น ที่อยากให้กระทรวงยุติธรรมช่วยตรวจสอบ คือ เรื่องเสี่ยโป้ ถูกทำร้ายในเรือนจำ และสิทธิมนุษยชน เสี่ยโป้ ถูกคุมขังร่วมกับผู้ต้องขังเด็ดขาด ทั้งที่ เสี่ยโป้ เป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์ นอกจากนี้สิ่งที่ เสี่ยโป้ ถูกปฏิบัติเหมือนนักโทษเด็ดขาดคือ ข้อจำกัดเรื่องการเข้าเยี่ยม เสี่ยโป้ เข้าเยี่ยมได้แค่เดือนละ 1 ครั้ง และมีการจำกัดจำนวนญาติ ข้อปฏิบัติคล้ายกับนักโทษเด็ดขาด ไม่ใช่นักโทษระหว่างพิจารณาคดี

ทนายวิฑูรย์ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก ไม่ได้แต่งเรื่อง เพื่อที่อยากจะย้ายเรือนจำ แต่ต้องการให้แยกแดนให้ชัดเจนระหว่าง นักโทษเด็ดขาดกับนักโทษที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์

ส่วนอาการป่วยของเสี่ยโป้ ที่ไอเป็นเลือดนั้น นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า ก่อนที่เสี่ยโป้ จะเข้ามาในเรือนจำเป็นคนที่สูบบุหรี่จัดมาก่อนหน้านี้มีอาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เคยมีการรักษารวมถึงเคยมีแพทย์มารักษาด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันได้รักษาหายขาดเป็นที่เรียบร้อย

“ตนได้เข้าเยี่ยมเสี่ยโป้เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว สภาพจิตใจก็มีความกังวลและเครียดเนื่องจากเพิ่งจะผ่านเรื่องความเป็นความตายมากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก” นายวิฑูรย์ กล่าว

ด้าน นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เผยว่า ตามหลักการควรจะมีการแยกคุมขัง ระหว่างผู้ต้องขังระหว่างกับผู้ต้องขังคดีเด็ดขาด แต่เรือนจำกลางบางขวาง มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่คุมขัง จึงไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ หรือ แยกขังได้ชัดเจน

สำหรับเรื่องที่เสี่ยโป้ ถูกทำร้าย หรือเจ็บป่วย แล้วไม่ได้รับการรักษา และเรื่องข้อจำกัดในการเข้าเยี่ยมนั้น เรื่องนี้จะส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก่อนจะส่งเรื่องให้ทาง ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง ดำเนินการตรวจสอบในวันนี้เลย

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถึงกรณีที่ทนายความของเสี่ยโป้ มาร้องกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า ทางกรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีข้อมูลเรื่องที่ว่ามีนักโทษใช้อาวุธลอบทำร้าย เสี่ยโป้ หรือไม่

นายสหการณ์ ให้ข้อมูลว่า ที่ได้รับรายงาน มีเพียงการทะเลาะวิวาทกันภายในเรือนจำเท่านั้น และเรือนจำกลางบางขวาง เป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการร้องเรียนมา ก็จะต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจน และข้อกังวลที่ต้องการแยกนักโทษระหว่างกับนักโทษเด็ดขาดนั้น

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุ แดน 10 แดนที่เสี่ยโป้อยู่เป็นแดนของผู้ต้องขังระหว่าง ซึ่งแยกกับผู้ต้องขังเด็ดขาดอยู่แล้ว และเมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะย้ายเสี่ยโป้ ไปเรือนจำอื่นหรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ระบุว่าการย้ายนักโทษต้องดูตามหลักเกณฑ์เรื่องติดนิสัยความปลอดภัยว่าเข้าเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาหลายส่วนอย่างละเอียด.