นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการยกระดับน้ำพุร้อนสันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นสปาเพื่อสุขภาพและเส้นทางท่องเที่ยวสายน้ำพุร้อนนำร่อง ว่า กรมการท่องเที่ยวเตรียมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อลงนามบันทึกความร่วมมือกับ จ.ชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2567 เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยกระดับสู่ออนเซ็นแห่งแรกของไทย

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาน้ำพุร้อนสันกำแพง ใช้งบประมาณในการพัฒนาทั้งสิ้น 197 ล้านบาท แยกเป็นงบประมาณปี 2568 จำนวน 35.5 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ โครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน อาคาร ห้องน้ำ และสถานที่ให้บริการโดยรอบ ส่วนวงเงินที่เหลืออีก 161.5 ล้านบาท จะใช้งบประมาณ 2569 โดยจะทำสถานที่การให้บริการสปาเพื่อสุขภาพ ที่พัก และยกระดับคุณภาพการบริหารน้ำผุร้อนที่มีมาตรฐานมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินทั้งสิ้น 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2568-2570

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่เลือกน้ำพุร้อนสันกำแพง เป็นพื้นที่นำร่องในการพัฒนาเป็นแหล่งน้ำพุร้อนเชิงสุขภาพ เพราะมีไอน้ำระเหยเป็นไออยู่ตลอดเวลา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว และยังเป็นโครงการพระราชดำริของ ร.9 และ จ.เชียงใหม่ ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก จึงจะใช้เป็นเมืองหลักเพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดใกล้เคียงอย่าง จ.ลำพูน จ.ลำปาง เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลแหล่งน้ำพุร้อนภายในประเทศจากกรมทรัพยากรธรณีและสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า ประเทศไทยมีแหล่งน้ำพุร้อนจำนวน 118 แห่ง โดยแหล่งน้ำพุร้อนส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ 71 แห่ง รองลงมาเป็นภาคใต้ 32 แห่ง ภาคกลาง 12 แห่ง และภาคตะวันออก 2 แห่ง

นอกจากนี้สถาบันโกลบอลเวลเนส องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มุ่งเน้นงานวิจัยและข้อมูลทางการศึกษาด้านสุขภาพเชิงป้องกันและอุตสาหกรรมเวลเนสทั่วโลก ได้คาดการณ์มูลค่าเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 4.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 เป็นกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 หรือเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี

โดยกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุด คือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 จากทั้งหมด 11 กลุ่มธุรกิจ และจะเติบโตต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ย 21% ต่อปี

นอกจากนี้ในปี 2563 ไทยได้รับการจัดให้เป็นอันดับ 2 ในการเป็นจุดหมายด้านการพักผ่อนเพื่อสุขภาพ จากเวลเนส รีทรีท และอันดับ 5 ประเทศ ที่มีการดูแลสุขภาพที่ดี จากการจัดอันดับโกลบอล เฮลท์ ซิคิวริตี้ อินเด็ก ในปี 2564