นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังทบทวนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนให้ทั่วถึง ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างพิจารณาการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ ซึ่งจะปรับปรุงเงื่อนไขการลงทะเบียนให้รัดกุมยิ่งขึ้น และป้องกันการแอบอ้างสิทธิ เช่น ปรับเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่กำหนดไว้เดิม 100,000 บาทต่อปี เป็นให้ใช้เกณฑ์รายได้ครัวเรือนแทน รวมถึงนำทรัพย์สินมาเป็นเกณฑ์พิจารณาด้วย เช่น บ้าน ที่ดิน หรือสลากออมทรัพย์ต่างๆ คาดว่าจะสามารถนำหลักเกณฑ์เสนอ ครม. พิจารณาภายในเดือน พ.ย.นี้ และเปิดให้ลงทะเบียนได้ในเดือน ม.ค.65
สำหรับปัจจุบันมีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมประมาณ 22 ล้านคน โดยแยกเป็นผู้ประกัน มาตรา 33 ที่เป็นคนไทยประมาณ 11 ล้านคน มาตรา 39 ประมาณเกือบ 2 ล้านคน และมาตรา 40 ที่เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 10 ล้านคน ล่าสุดกระทรวงการคลังได้หารือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อขอนำฐานข้อมูลผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการคัดกรองคุณสมบัติผู้ที่จะลงทะเบียน ควบคู่กับการปรับปรุงเกณฑ์รายได้ และเกณฑ์ด้านอื่น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความถูกต้องสามารถช่วยเหลือผู้เดือดร้อนตัวจริง
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเสมอในการทำงานให้แต่ละกระทรวงร่วมมือกันในการเชื่อมโยงข้อมูลกันเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพที่สุด โดยการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ในครั้งนี้กับกระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงานก็ได้ร่วมกันดำเนินการตามข้อสั่งการนายกฯ ในการคัดกรองคุณสมบัติผู้ที่จะลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ให้มีความถูกต้อง และลดความซ้ำซ้อนการได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการภาครัฐ“
นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลยังเตรียมร่วมมือในการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกับคณะกรรมการนโยบายลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขความยากจนอีกทางหนึ่งด้วย พร้อมทั้งเพิ่มหลักเกณฑ์รายได้ครัวเรือนในการคัดกรอง เพื่อให้คนที่ได้รับสิทธิเป็นผู้มีรายได้น้อยหรือต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง โดยจะรีบกำหนดช่วงเวลาที่จะเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ให้เร็วที่สุด โดยดูความเหมาะสมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ควบคู่ไปด้วย คาดไว้ประมาณเดือน ม.ค. 65
