ตามนโยบายของรัฐบาลให้ทำการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงประชาชน (แก๊งคอลเซ็นเตอร์ CALL CENTER) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ทำการสืบสวนติดตามกลุ่มบุคคลที่นำเครื่อง SIMBOX หรือ GSM GATEWAY สำหรับเสียบซิมการ์ดโทรศัพท์และควบคุมการโทรฯ ออกผ่านอินเทอร์เน็ตทางไกลเพื่อใช้หมายเลขโทรศัพท์ของประเทศไทยโทรฯ ชักชวนให้ทำงานพิเศษและหลอกลวงให้ลงทุนเพิ่มเติม
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 67 เวลาประมาณ 23.15 น. พบกลุ่มบุคคลชาวจีน จำนวน 3 คนโดยสารมาด้วยรถยนต์ ยี่ห้อ MAZDA สีแดง จอดบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ แห่งหนึ่ง แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. และมีผู้ชาย 1 คนเดินลงจากรถและเดินเข้าไปที่ตึก A และขึ้นไปด้านบน เจ้าหน้าตำรวจ บก.สส.ภ.2 จึงได้เฝ้ารอจนกระทั่งผู้ชายคนดังกล่าวเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นพบเครื่อง SIMBOX หรือ GSM GATEWAY จำนวน 1 เครื่อง พร้อมซิมการ์ดโทรศัพท์จำนวนมาก
จากนั้นจึงได้เชิญคนที่รออยู่ในรถอีก 2 คนมาด้วย โดยทั้ง 3 คนรับว่าได้นำเครื่อง SIMBOX หรือ GSM GATEWAY จำนวน 3 เครื่องมาติดตั้งที่คอนโดฯ โดยอีก 2 เครื่องติดตั้งอยู่บนห้อง และทำการตรวจค้นรถยนต์พบซิมการ์ดโทรศัพท์อีกจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.ร่วมกันทำ มี ใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม ม.6 พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 2.ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม ม.11 พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 3.ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ตาม ม.67(3) พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม และ 1 ใน 3 ของผู้ต้องหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมก่อนนำตัวส่ง พงส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป