เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 30 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งคำแถลงปิดคดีที่ 40 สว. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้พร้อมแล้วทุกอย่าง หลือเพียงตนต้องเซ็นลงนาม ซึ่งคาดว่าหลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จก็จะเซ็นลงนาม และจะส่งภายในเวลา 16.30 น. วันเดียวกันนี้ ก็จะต้องส่งให้เรียบร้อย
เมื่อถามว่าจนถึงวินาทีนี้ นายกฯ ยังมั่นใจในเก้าอี้ว่าจะได้ไปต่อได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ยิ้ม หัวเราะ และกล่าวว่า “อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าทุกอย่างเราก็ส่งไป ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมไม่อยากจะก้าวล่วง วันนี้ผมก็จะทำ Closing Statements”
เมื่อถามต่อว่า วันนี้เริ่มมีการมองหานายกฯ สำรอง หวาดหวั่นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่า ”ไม่ครับ“
เมื่อถามย้ำอีกว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยมีบุคคลคุณภาพหลายคน ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และทุกอย่างยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง และน้อมรับคำตัดสิน
เมื่อถามอีกว่ามีการจับตาในช่วงเดือน ส.ค. ที่นายทักษิณจะพ้นโทษเป็นผู้บริสุทธิ์ นายกฯ จะให้เข้ามาช่วยงานในรัฐบาลด้านใดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องแรกคือต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมถึงจะได้รับการพ้นโทษ เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว ส่วนเรื่องที่จะให้มาช่วยงานรัฐบาลยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกัน ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และย้ำว่ายังไม่มีการพูดคุย
เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้เข้าใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่ปฏิเสธที่จะพูดคุยกัน คงมีการพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้ต้องเป็นเป็นไปตามความประสงค์ของท่านด้วย ไม่ใช่ของผมฝ่ายเดียว ยืนยันว่ายินดี และพร้อมยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกๆ ท่าน“
เมื่อถามต่อว่าในความคิดของนายกฯ นายทักษิณยังเป็นกระแสที่ประชาชนต้องการใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าคนที่เป็นนายกฯ มานานขนาดนี้ และเป็นนายกฯ ที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุดอย่างที่ตนเคยเรียนไป ท่านก็ยังคงมีคนรัก
เมื่อถามอีกว่าระยะเวลาความนิยมผ่านมาเกือบ 20 ปี วันนี้นายทักษิณก็ยังตอบโจทย์สถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองปัจจุบันได้ นายกฯ คิดเห็นอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนมีความคิดเห็น มีความหวังดีและมีความปรารถนาดีกับประเทศชาติในปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป องค์ประกอบหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นแต่ละปีแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ก็จะมีความยากความซับซ้อน.