จากกรณีเดลินิวส์ออนไลน์ นำเสนอข่าว น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ถูกนายเพลิน หรือยาว ติมานพ อายุ 43 ปี แกล้งทำหน้าเศร้าหลงทางหลอกให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งหาเพื่อน ก่อนจี้บังคับให้ขี่รถออกนอกเส้นทางไกลกว่า 10 กม. แล้วให้ขี่รถเข้าป่าอ้อยล็อกคอหมายจะข่มขืน แต่เด็กนักเรียนสาวสลัดหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดที่บึงหนองระแซซัน ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยทางตำรวจออกมายอมรับว่า คนก่อเหตุเป็นคนเร่ร่อนตามตัวยาก เพราะอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ทางตำรวจ สภ.ประโคนชัย ได้มีการประกาศตามล่าตัว ”ไอ้ยาว” ผู้ก่อเหตุหลายช่องทาง เนื่องจากไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ชอบอาศัยหลับนอนตามศาลาข้างทาง เพื่อหาเหยื่อที่จะก่อเหตุรายใหม่ ในลักษณะเดียวกันกับผู้เสียหาย
แต่ล่าสุดทางตำรวจได้จับกุมตัว นายเพลิน หรือยาว ติมานพ อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุได้แล้ว ขณะกำลังนอนหลับอยู่หน้าสถานีขนส่ง บขส. อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และเตรียมตัวจะขึ้นรถประจำทางหลบหนี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
ตำรวจบุรีรัมย์ยอมรับตามหาตัวยาก เดนนรกลาก ‘นักเรียน ม.5’ เข้าป่าหวังข่มขืน
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์มาได้ไม่นาน และมีคดีติดตัวอีกหลายคดี โดยนายเพลิน ยอมรับว่า ได้เอารถจักรยานยนต์ผู้เสียหายไปจริง ตอนนี้จอดอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว อ.สีขรภูมิ จ.สุรินทร์ แต่ไม่ได้หมายจะข่มขืน เด็กขี่รถเข้าป่าอ้อยไปเอง เมื่อไปถึงเด็กก็วิ่งหนีไปหารถอีกคัน ตนไม่มีอาวุธตามคำกล่าวหาของเด็ก
ต่อมาผู้ปกครองและชาวบ้านที่ทราบข่าว มาดูหน้ายืนยันว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกัน ที่ก่อเหตุคุกคามตามที่ต่างๆ ในเขตเทศบาลประโคนชัย โดยเฉพาะพ่อของผู้เสียหาย บอกว่าดีใจที่จับได้และอยากได้รถคืน
เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหา “ชิงทรัพย์” เอาไว้ก่อน หากพบหลักฐานเพิ่มเติมหลังสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม “คดีพรากผู้เยาว์และกักขังหน่วงเหนี่ยว” โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.