กรณี น.ส.ศุจินธรา หรือน้องดรีม อายุ 24 ปี พนักงานโรงงานเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบและถีบรถล้มคว่ำ ก่อนลงมือชิงทรัพย์เป็นกระเป๋า รวมทั้งยังพยายามข่มขืนในพงหญ้าข้างทาง แต่โชคดีมีเพื่อนร่วมงานและพลเมืองดี ผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์ช่วยกันเรียกรถพยาบาล นำตัวส่งโรงพยาบาล แต่น้องดรีมได้รับบาดเจ็บสาหัส เส้นเลือดในสมองแตก ร่างกายซีกขวาไม่มีความรู้สึก ต้องนอนพักรักษาตัวในห้องไอซียู โดยเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 00.17 น. วันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณถนนเลียบคันคลองชลประทาน พื้นที่หมู่ 5 ต.ท่าเสา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วอนตำรวจช่วยเร่งล่าไอ้หื่นขี่รถประกบ ถีบจยย.เหยื่อสาวชิงทรัพย์หวังข่มขืนอาการสาหัส
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนทวิชญ์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมปฏิบัติงานกับชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา เพื่อหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม จนรู้ว่า คนร้ายเริ่มขี่รถ จยย.ติดตามน้องดรีม ที่ขี่รถ จยย.มาตามลำพัง ตั้งแต่ช่วงหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ จึงประกบและลงมือก่อเหตุ
ซึ่งเชื่อว่า คนร้ายน่าจะชำนาญพื้นที่ รู้เส้นทางหลบหนี และรู้จุดมีกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี สังเกตได้จากหลังก่อเหตุ ที่คนร้ายขี่รถจยย.หลบหนีและได้หยิบเอากระเป๋าของน้องดรีมมาด้วยนั้น เมื่อถึงจุดที่มีกล้อง คนร้ายได้พยายามเอากระเป๋าเข้าไปซุกไว้บริเวณหว่างขาเพื่อหลบกล้อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางตำรวจทราบยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุแล้ว รวมถึงมีบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ยังต้องรอให้ผู้เสียหายให้ปากคำได้ก่อน เพื่อสอบถามอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังได้เชิญตัวพลเมืองดีและเพื่อนร่วมงานของผู้เสียหาย ให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้ด้วย
นายครรชิต ทาสะโก อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นญาติน้องดรีม ให้ข้อมูลเบื้องต้นกับผู้สื่อข่าวว่า ตามปกติ ช่วงหลังเลิกงานออกเวรกะดึกเวลาประมาณเที่ยงคืน น้องดรีมและกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่มีบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน จะขี่รถ จยย.กลับบ้านพร้อมกัน แต่ในคืนวันเกิดเหตุ น้องดรีมได้ขี่รถออกมาก่อนตามลำพังและมีกลุ่มเพื่อนขี่รถตามมาห่างๆ ซึ่งกว่าที่เพื่อนร่วมงานจะผ่านมาเห็น น้องดรีมก็อยู่ในสภาพหมดสติอยู่ในพงหญ้าข้างทางในจุดเกิดเหตุแล้ว โดยในตอนแรก ทุกคนคิดว่าน้องดรีมเกิดอุบัติเหตุ ก่อนจะมาสังเกตพบว่ากุญแจรถและทรัพย์สินมีค่าของน้องดรีมหายไป จึงรู้ว่าน้องถูกทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์ แต่ในขณะนั้น คนร้ายที่ก่อเหตุก็ใช้เส้นทางอื่น หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุแล้ว
นายครรชิต ยังได้กล่าวอีกว่า อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะจากที่ชาวบ้านทราบข่าวมา นอกจากน้องดรีม ที่เป็นเหยื่อรายล่าสุดแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีหญิงสาวที่ถูกคนร้ายก่อเหตุถีบรถเพื่อชิงทรัพย์ในพื้นที่อำเภอท่ามะกามาแล้วประมาณ 2-3 ราย โดยคนร้ายจะเลือกเหยื่อเป็นหญิงสาวที่ขี่รถ จยย.มาตามลำพัง ก่อนจะฉวยโอกาสในช่วงที่เหยื่อขี่รถผ่านในเส้นทางเปลี่ยว ลงมือก่อเหตุถีบรถจนล้มแล้วเข้าชิงทรัพย์หลบหนีไป ซึ่งหลังเรื่องราวของน้องดรีมเป็นข่าว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะไปไหนคนเดียวตามลำพังในช่วงกลางดึก อย่างตนเองและภรรยา เมื่อภรรยาต้องไปเข้างานกะดึก ตนก็ต้องคอยขี่รถไปเป็นเพื่อน ไม่กล้าให้ไปตามลำพังคนเดียว เพราะเกรงจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้
ขณะที่ อาการของน้องดรีม ล่าสุด พบว่า น้องดรีมออกจากห้องไอซียูแล้ว เริ่มรู้สึกตัวและมีอาการตอบสนองแล้ว แต่ยังไม่สามารถพูดคุยได้ ขณะที่ ครอบครัวของน้องดรีม ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า น้องดรีมจะต้องรับการรักษาอย่างใกล้ชิดและจะต้องทำกายภาพฟื้นฟูโดยใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน อาการจึงจะเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ