เมื่อเวลา 02.40 น. วันที่ 29 ก.ค. ร.ต.ท.วรัญชัย สุขยิ่ง รองสว.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย ภายในซอยเทพกุญชร 42 หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.กวินเวทย์ วิริยะสิริภักดี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส. กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น หน้าร้านเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ที่โต๊ะม้าหินหน้าร้าน พบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายสุรัตน์ ดำชะไว อายุ 40 ปี หรือบังแอร์ อยู่บ้านเลขที่ 27/9 หมู่ที่ 13 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ปลายคางฝั่งขวาเสียชีวิตในลักษณะหน้าทิ่มไปอยู่กับพื้นมีเลือดไหลนอง โดยที่บนโต๊ะยังมีอาหารเครื่องดื่มที่กลุ่มผู้ตายสั่งไว้วางอยู่ ขณะที่เพื่อน 2 คนที่นั่งรับประทานอยู่ด้วยยังอยู่ในอาการตื่นตกใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียด
สอบสวนเบื้องต้น นายดงเย็น อยู่เย็น อายุ 52 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นผู้ตายและนายวิชัย ผลพะเลิก อายุ 32 ปีที่รอดชีวิตอีกคน มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นร้านข้าวต้มที่มาใช้พื้นที่ของร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟที่อยู่ติดกัน ตนจึงเดินออกจากร้านของตน ซึ่งเป็นร้านของชำที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 คูหาเพื่อมานั่งด้วย เพราะเป็นคนรู้จักกัน โดยขณะที่นั่งรออาหาร ผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายป้อม อายุประมาณ 45-50 ปี ได้ขี่รถ จยย.มาสั่งข้าวที่ร้านตามสั่งที่ตนนั่งอยู่ แต่แม่ค้าบอกว่าข้าวหมด คนร้ายจึงบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวไปซื้อที่อื่น ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถ จยย.ออกไป ซึ่งตนจำได้เป็นจักรยานยนต์คล้ายกับชอปเปอร์หรือฮาร์เล่ย์ท่อมีเสียงดัง จากนั้นไม่เกิน 15 นาทีคนร้ายก็กลับมาอีกครั้ง โดยจอดรถ จยย.หน้าร้าน ก่อนจะเดินตรงเข้ามา ตนมองเห็นปืน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็พูดว่า มึงทำกูทำไม แต่คนตายยังไม่ทันได้ตอบอะไร ผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันที 1 นัดเสียงดังสนั่น ก่อนจะขี่รถออกไปมุ่งหน้าถนนพหลโยธิน
นายดงเย็น ให้การอีกว่า ตนกับผู้ตายและผู้ก่อเหตุรู้จักกันก่อนหน้านี้ ทั้งคู่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 2 ปีที่แล้วที่ร้านโชห่วยของตน ตอนนั้นมีคนอยู่ 3-4 คน โดยผู้ตายได้ไปตบหัวผู้ก่อเหตุ สาเหตุมาจากเรื่องผู้หญิงเพราะคนก่อเหตุไปต่อว่าหญิงคนสนิทของผู้ตายทำให้ผู้ตายเจ็บแค้นแทน จึงไปตบหัวผู้ก่อเหตุอย่างแรง แต่ครั้งนั้นไม่มีเรื่องบานปลายต่างคนต่างแยกย้ายกันไป แต่หลังจากเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเมื่อเจอตนก็จะพูดอยู่เสมอว่า อย่าให้เจอแล้วกัน
นายวัชรพล เหมรักษ์ อายุ 37 ปี เพื่อนคนตายอีกคน แต่ไม่ได้นั่งอยู่ด้วยกันในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า สาเหตุมีเรื่องเดียวเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ที่นายป้อม ผู้ก่อเหตุ ไปต่อว่าแฟนของคนตายทำให้คนตายไม่พอใจ จึงตบหัวนายป้อมไป 1 ครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย กระทั่งวันนี้มาเจอกัน ก่อนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยคนตายมีอาชีพเลี้ยงไก่ชนอยู่ที่บ้านตัวเอง
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐาน ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานเพื่อประกอบคดีและใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับคนร้าย และให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนและหลังก่อเหตุใช้เทคนิคตำรวจในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป.