ยุคนี้ที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI)  ได้เข้ามามีบทบาทแทบทุกวงการ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ แวดวงการตลาดที่ได้นำเอไอมาช่วยจับ วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงความต้องการ หรือที่ลูกค้าสนใจ!?!

ดังที่จะได้เห็นในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ต่างๆ ที่เราจะได้เห็นโฆษณาที่เราเคยดู หรือเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ โผล่ขึ้นมาเชิญชวนให้เย้ายวนใจ ด้วยโปรโมชั่นที่จะดึงเงินออกจากกระเป๋าของเราได้ทุกเมื่อ!!

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่แพลตฟอร์มต่างๆ มีการใช้เอไอ เก็บข้อมูลการเล่นโซเชียลของเรา เรียนรู้ จดจำพฤติกรรมต่างๆ และนำเสนอคอนเทนต์หรือโฆษณาที่ใกล้เคียง ตรงกับความสนใจหรือเลือกสิ่งที่มีแนวโน้มว่าเราจะซื้อมากที่สุดให้นำเสนอให้เราเห็นเสมอ!!

ถือเป็นหนึ่งในความสามารถของเทคโนโลยี AI  ที่เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญของแวดวงการตลาด ซึ่งจากผลสำรวจของ  MSpoweruser ระบุว่า มากกว่า 73% ของเหล่านักการตลาดใช้ AI เป็นตัวช่วยในการทำงาน

โดยปัจจุบันเครื่องมือ AI ที่ใช้ในการตลาดมีมูลค่าอยู่ที่ 15.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นว่า AI กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญและมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต!?!

จากแนวโน้มดังกล่าว ทาง สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เอ็ตด้า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมสนับสนุนให้คนไทยมีความตระหนักในการนำ AI ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างเหมาะสม ได้จัด “ETDA LIVE” แลกเปลี่ยนมุมมอง และทำความรู้จัก ‘AI Marketing’ ให้มากขึ้น โดยมีเนื้อหาประเด็นที่น่าสนใจมากมาย

ในยุคก่อน นักการตลาดต้องตีโจทย์ว่า  ผู้บริโภคชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน  โดยข้อมูลเหล่านี้ต้องใช้กำลังคนและเวลาในการเก็บข้อมูล ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ทำรีเสิร์ช วิเคราะห์ข้อมูล สิ้นเปลืองทั้งกำลังคน เวลา และงบประมาณจำนวนมาก เพื่อให้มีข้อมูลเจาะลึกว่าควรจะนำเสนอสินค้าแบบไหน?

แต่ปัจจุบัน ในยุคดิจิทัล ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ Market Segmentation มีความหลากหลาย กลุ่มเป้าหมายมีความละเอียดและซับซ้อนมากขึ้น  แต่เมื่อมี AI เข้ามา ก็สามารถย่นระยะเวลา และทำให้ง่ายขึ้น จากความสามารถอันโดดเด่นของ AI ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล (BIG DATA) ที่ดึงมาจากแหล่งต่างๆ ได้ และนำข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอดประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลายในทุกขั้นตอน

ทั้งทำให้เห็น Customer Insights ช่วยวิเคราะห์ทำนายพฤติกรรมลูกค้า ทำให้รู้ว่าลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า รู้ลึก รู้ละเอียด แม้กระทั่งบุคคลนี้ เข้าชมเว็บไซต์กี่ครั้ง คลิกแบนเนอร์โฆษณาหรือเปล่า มีความชอบหรือสนใจ หรือรู้สึกอย่างไรต่อสินค้า และเหมาะกับสินค้าตัวไหน รวมถึงมีแนวโน้มจะซื้อหรือไม่ซื้อ

สิ่งเหล่านี้ทำให้นักการตลาดยุคดิจิทัลสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ สื่อสารกับลูกค้า ได้อย่างตรงประเด็นมากขึ้น และสามารถเลือกเจาะเฉพาะกลุ่มที่มีโอกาสซื้อสินค้าสูงได้ ช่วยให้ไม่ต้องเสียเงินงบประมาณไปกับการโฆษณาแบบหว่านไปทั่ว

ช่วยสะท้อนเทรนด์ในปัจจุบัน เกิด Real-time Marketing เกิดการปรับกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้น สร้างสรรค์แคมเปญส่งเสริมการขายได้อย่างตรงใจกลุ่มเป้าหมาย มีประสิทธิภาพ และสิ่งสำคัญ ก็คือ การสร้างโอกาสในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย (Personalized Marketing) ที่เข้าถึงลูกค้าได้อย่างแม่นยำและนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมได้ในระดับปัจเจกบุคคล ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาค้นหาสินค้าด้วยตัวเอง และเกิดความประทับใจจนกลับมาซื้อซ้ำ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว

นอกจากนี้ยังช่วยวิเคราะห์คู่แข่งได้อย่างเจาะลึก ช่วยหาข้อมูลเชิงลึกของคู่แข่ง วิเคราะห์ และสรุปผลได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการทำ SWOT Analysis รวมถึงประเมินผลกระทบในด้านต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อนำไปพัฒนากลยุทธ์และเตรียมการรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อย่างไรก็ตาม นักการตลาดผู้เชี่ยวชาญ มองว่า  AI นอกจากจะช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ แล้วยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆ องค์กรพยายามเพิ่ม Productivity ทั้งในส่วนของรายได้ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน!!

เพราะสามารถช่วยให้วงการ “เอเจนซี่” ทำงานได้ง่ายขึ้น ได้เร็วขึ้น สามารถคิด วิเคราะห์ มองเห็นไอเดียใหม่ๆ ช่วยให้การตัดสินใจถูกต้องแม่นยำขึ้น และลดข้อผิดพลาดต่างๆ ได้ดีขึ้น ใช้เวลา ใช้คน และงบประมาณน้อยลง

แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลให้มีความกังวลว่า AI จะมาแย่งงานคนในแวดวงโฆษณาและนักการตลาดหรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญต่างยืนยันตรงกันว่า แม้ AI จะเก่งไปทุกเรื่อง แต่ยังทำได้แค่เป็น “ผู้ช่วยคนเก่ง” ของเราเท่านั้น เพราะงานบางอย่างยังต้องใช้มนุษย์ในการตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายอยู่!?!

อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้ AI ในเรื่องการตลาดให้ประสบความสำเร็จ มีเคล็ดลับง่ายๆ ดังนี้

เราต้องเข้าใจก่อนว่า ข้อมูลจาก AI เป็นสิ่งที่ถูกเทรนมาก ทำให้อาจยังไม่ถูกต้อง 100% อาจคลาดเคลื่อน หรือไม่ทันยุคสมัยได้ จึงต้องคอยอัปเดตโปรแกรมอยู่เสมอและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกครั้ง 

ขณะเดียวกัน AI ยังไม่สามารถทำงานที่มีความละเอียดและซับซ้อนมากๆ แทนคนได้  อย่างเช่น การวางกลยุทธ์ จึงต้องแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ และให้ AI ทำทีละส่วน ซึ่งจะช่วยให้ AI ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ AI ฉลาดสุดล้ำได้เพราะถูกเทรนมา จึงต้องมีการอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ ให้ AI ได้เรียนรู้เสมอ โดยเฉพาะหากมีข้อมูลเฉพาะขององค์กรมาสอน AI จะยิ่งช่วยให้ AI มีความแม่นยำและทำงานได้เฉพาะเจาะจงและถูกต้องมากขึ้น  เช่น หากต้องการทำ AI แชตบอท ก็ให้นำข้อมูลที่ทีมแอดมินใช้เป็นประจำและวิธีการคุยกับลูกค้าให้ AI ได้เรียนรู้ AI ก็จะพูดคุยหรือตอบโต้กับลูกค้าได้ใกล้เคียงคนจริงๆ 

อย่างไรก็ตาม สิ่งสุดท้ายซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุด ก็คือ คำนึงถึงหลักจริยธรรม ใช้อย่างมีธรรมาภิบาล และมีความรับผิดชอบ รักษาความปลอดภัยของข้อมูลไม่ให้รั่วไหล เคารพความเป็นส่วนตัว นำข้อมูลไปใช้อย่างเหมาะสม และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ 

ก็จะถือว่าเป็นการนำ AI Marketing  มาใช้ในการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด!?!

จิราวัฒน์ จารุพันธ์