ถ่านแบบชาร์จไฟได้มีต้นทุนเริ่มแรกสูงกว่าถ่านอัลคาไลน์ แต่สำหรับการใช้งานในระยะยาว จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าถ่านแบบใช้แล้วทิ้งแน่นอน
จึงมีคนจำนวนมากที่มีความคิดจะซื้อถ่านแบบชาร์จไฟ มาใช้แทนที่ถ่านอัลคาไลน์แบบใช้แล้วทิ้ง แต่ก็มีข้อสงสัยในใจว่า มันสามารถนำมาใช้แทนกันได้หรือไม่?
เว็บไซต์ grapee ได้นำข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Mitsubishi Electric ที่อธิบายถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งมารายงานว่า…
“ถ่านหรือแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟ ไม่ควรนำมาใช้กับรีโมตคอนโทรลของเครื่องปรับอากาศ”
สาเหตุเพราะอุปกรณ์บางอย่างจะระบุเอาไว้เลยว่า ให้ใช้ถ่านอัลคาไลน์เท่านั้น เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวต้องการแรงดันไฟฟ้าที่ 1.5V เพื่อทำให้อุปกรณ์ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และถ่านอัลคาไลน์ก็มีแรงดันไฟฟ้า 1.5V พอดิบพอดี ส่วนถ่านชาร์จไฟและถ่านธรรมดาจะมีแรงดันไฟฟ้าไม่ถึง 1.5V หากนำไปใช้จะทำให้อุปกรณ์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยถ่านชาร์จไฟในท้องตลาดปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีแรงดันไฟฟ้าที่ 1.2V
สำหรับรีโมตแอร์จะใช้ถ่าน 2 ก้อน เมื่อรวมกันแล้วจะได้แรงดันไฟฟ้าที่ 3V หากเรานำถ่านชาร์จไปใช้ 2 ก้อนแทนถ่านอัลคาไลน์ จะได้แรงดันรวมที่ 2.4V ซึ่งจะทำให้ถ่านหมดเร็วมาก แม้จะชาร์จมาเต็มพิกัดก็ตาม ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ถ่านชาร์จไฟกับรีโมตแอร์ เพราะอาจทำให้รีโมตทำงานผิดปกติได้
นอกเหนือจากรีโมตแอร์แล้ว ยังมีอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่ไม่ควรใช้ถ่านชาร์จไฟ เพราะอาจทำให้อุปกรณ์เสีย หรือทำให้ถ่านชาร์จไฟเสื่อมเร็ว โดยเฉพาะ
“เครื่องวัดความดันโลหิต” : นี่คืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ถ่านอัลคาไลน์เท่านั้น หากใช้ถ่านชาร์จจะทำให้ผลการวัดความดันคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งผลที่วัดผิดอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพและร่างกายของคุณเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ต้องดูคู่มือและคำแนะนำสินค้าให้ดีว่า อุปกรณ์แต่ละอย่างต้องการแรงดันไฟฟ้าเท่าไหร่ หรือระบุเอาไว้หรือเปล่า ว่าต้องใช้ถ่านชนิดไหน ขอให้ใช้ตามคำแนะนำดังกล่าวโดยเคร่งครัด.
ที่มาและภาพ : grapee