ชุลมุนวุ่นวาย สุดท้ายสื่อไทย ได้บัตรเข้าพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 5 คน ช่างภาพ 1, นักข่าว 4 รวมทั้งผมด้วย
เจ้าหน้าที่วางกฎเข้ม บอกต้องพกพาสปอร์ตเข้าสนาม ถามว่าใช้รูปถ่ายได้ไหม ก็ไม่ยอม เลยต้องวุ่นตีรถไฟกลับไปหยิบจากห้องพักแบบเร่งด่วน แต่เมื่อเข้าในงานก็ไม่เห็นได้ใช้ …ขอบใจนะ
งานเริ่มเวลาท้องถิ่น 17.30 น. เรานั่งชัตเติลบัสไปบริเวณงานตั้งแต่ 14.30 น. ไปถึงมีตรวจ 2 ด่าน ตำรวจค้นตัวละเอียดด่านนึง อีกด่านเข้าเครื่องสแกน
เดินไม่ไกลนักสัก 1 กิโลเมตร ก็ถึงหน้าหอไอเฟล ตรงสะพานเชื่อมปะรำพิธี ราวๆ 16.00 น. ยังมีรถขนของวิ่งกันให้ควั่ก เตรียมตัวขั้นสุดท้าย
ตอนนั้นยังไม่กั้นอะไรมาก เราไปเดินทั่วทั้งสะพาน ล้ำไปในพิธี สำรวจ ตรวจตรา ถ่ายคลิป ไลฟ์กลับมาให้ชมกันฉ่ำใจ
สักพักเริ่มไล่จากตรงสะพาน สื่อไทยก็มาหลบตรงคอสะพาน ติดแม่น้ำแซน
นั่งเล่น คุย ถ่ายคลิปอะไรไปกันเรื่อย ฝนเริ่มโปรยลงมา ซึ่งวันนั้น ตกกันตั้งแต่เช้ามืดแล้ว
จน 17.30 น. ถึงเวลาเริ่มพิธีการ เจ้าหน้าที่เริ่มมาไล่แล้ว ต้องเคลื่อนที่แบบน่าเสียดาย เพราะตรงนั้นติดขอบแม่น้ำแบบริงไซด์จริงๆ
ถึงตอนนี้ฝนเริ่มตกหนักแล้ว บนอัฒจันทร์บริเวณหน้าพิธี ไม่มีที่นั่งแล้ว หลายคนยืนรอบๆ ชะโงกดูจอโปรเจ็คเตอร์ ขณะที่เครื่องดนตรีถูกผ้าใบคลุมไว้
เรายืนอยู่พักหนึ่ง สู้ฝนไม่ไหว แวะเดินเข้าซุ้มขายอาหาร เครื่องดื่ม ราคาแรง อย่างฮอตดอก ดุ้นนึงก็ 11 ยูโร หรือ 440 บาท ส่วนน้ำอัดลม 4.5 ยูโร 180 บาท มีค่าแก้ว 2 ยูโร 80 บาท ถ้าเอามาคืนก็ได้เงินคืน
เบียร์ มีขาย ราคา 8 ยูโร หรือ 320 บาท กับอีกราคา 5.5 ยูโร 220 บาท
แต่…เบียร์ไร้แอลกอฮอล์นะ ฮ่วย!!!!
ถึงตอนนี้ เลดี้ กาก้า เล่นคอนเสิร์ตผ่านไปแล้ว ฝนยิ่งลงหนักหน่วง ผมกับ พี่บี แหลมสิงห์ หลบมาดื่ม “เบียร์โนแอลฯ” ในซุ้ม ส่วนคนทั่วไปมะล่อกมะแล่ก
ท่านทูต ศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส วิ่งหลบฝน เนื้อตัวเปียกฉ่ำ ทักทายกันแป๊บเดียว เพราะฝนมาแรงเหลือเกิน
พ่อหนุ่มคนหนึ่งสวมสูท เดินเก้ๆ กังๆ เหมือนจะหยุดซื้อของกิน ก่อนตัดสินใจรีบจ้ำออกไป เพราะฝนไล่ ผ่านผมกับพี่บี แหลมสิงห์ ไป มีทีมงานเดินห้อมล้อม เราก็มองๆ กันว่า คุ้นหน้ามากเลยคนนี้ พี่บี แกบอกนักบาสเอ็นบีเอ
ถึงตอนนี้เรายืนกันมาสัก 3 ชั่วโมงกว่าแล้ว ฝนก็ไม่มีทีท่าจะรามือ
พูดตรงๆ ไม่เห็นอนาคตเลย สำหรับพวกเราในตอนนั้น ฝนหนัก ไม่มีที่นั่ง จอโปรเจ็คเตอร์ก็ไม่เห็น แต่เหมือนเกรงใจกัน ไม่มีใครกล้าชวนกลับ สุดท้าย “คุณป๋อง สยามกีฬา” ที่ขยันที่สุดในชุดนี้ เป็นคนเอ่ยปากเอง…”พี่ ไปดูทีวีเถอะ”
ทุกคนพยักหน้าโดยไม่ต้องนัดหมาย รีบวิ่งฝ่าฝน เดินเปียกออกไปอีกเกือบ 2 กม. เพราะรอบนั้นปิดถนนสมบูรณ์แบบ
“คุณตอง ข่าวสด” สภาพขา สภาพเข่า ก็แย่แล้ว ไอค้อก ไอแค้ก จะเดินไปหาสถานีรถไฟฟ้าก็ไม่ไหวแล้ว เลยกดแอปพลิเคชัน เรียกรถจากอูเบอร์ ราคา 22 ยูโร หรือราว 880 บาท กับระยะทางไม่ถึง 10 กม.
ด้วยความที่ปิดถนนกันหลายสาย ทำให้ยืนแฉะรอถึงครึ่งชั่วโมง ก่อนได้รถกลับมาโรงแรมในสภาพเหี่ยวกันหมด
เปิดทีวีดูพิธีต่อ ทัพไทยเพิ่งผ่านไปพอดี ถึงกระบวนการวิ่งคบเพลิง ดาวดัง อาทิ ซีเนอดีน ซีดาน, ราฟาเอล นาดาล, คาร์ล ลูอิส, เซเรนา วิลเลียมส์, อเมลี โมเรสโม ฯลฯ
มาสะดุดตรงคนที่วิ่งคู่กับ โมเรสโม คือ โทนี ปาร์คเกอร์ นักบาสฯ เชื้อสายฝรั่งเศส
พอเห็นในจอเต็มๆ ถึงบางอ้อ..อ๋อ คนที่มายืนยงโย่ยงหยกหน้าซุ้มที่ ผมกับ พี่บี แหลมสิงห์ กระดกเบียร์โนแอลฯ อยู่
ที่รีบจ้ำๆ คือรีบไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อวิ่งคบเพลิงนี่เอง
แหม ถ้าฝนไม่ตก ไม่ต้องรีบ แกอาจแวะเข้าซุ้มมาดริ๊งค์เบียร์โนแอลฯ กับเราก็ได้นะ…(ฮาาาาา).
*** วุฒินล ***