เมื่อวันที่ 30 ก.ค.นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายประกาศแก้ปัญหายาเสพติดปราบปราม รักษา ฟื้นฟู พร้อมกระตุ้นค่านิยมเด็กและเยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น โดยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้มีข้อสั่งการให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขับเคลื่อนการรณรงค์กิจกรรมต่างๆอย่างเข้มข้น เพื่อปลุกให้เด็กและเยาวชนไทยตระหนักรู้ถึงโทษภัยยาเสพติดผ่านกิจกรรมที่สถานศึกษาจัดขึ้น ซึ่งวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั้งรัฐและเอกชนในสังกัดของสอศ.ส่วนใหญ่เป็นเด็กโตและสุ่มเสี่ยงที่จะเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ง่าย ดังนั้นตนจึงมีมาตราการกำชับวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั้ง 433 แห่ง ให้ดำเนินการเฝ้าระวัง พร้อมจดมาตรการตรวจค้นก่อนเข้าเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่

“เมื่อเร็วๆนี้สอศ.ได้มีการสุ่มตรวจปัสสาวะนักศึกษาที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 300,000 กว่ารายจากนักศึกษาทั้งหมดของอาชีวะกว่า 1 ล้านคน พบกลุ่มนักศึกษาที่มีปัสสาวะสีม่วง จำนวน 500 ราย และในจำนวนนี้มีอาการรุนแรง 10 ราย ซึ่งกลุ่มนักศึกษาที่ตรวจพบปัสสาวะสีม่วงจะนำไปบำบัดรักษา พร้อมกับการคัดแยกกลุ่มอาการที่จะต้องรับการบำบัดหนักเบาตามลำดับ โดยเราทำงานร่วมกับหน่วยปราบปรามยาเสพติดและสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่นั้นเข้าดำเนินการสุ่มตรวจ และไม่ใช่แค่การสุ่มตรวจปัสสาวะนักศึกษาเท่านั้น แต่รวมไปถึงครูผู้สอนด้วย เพื่อการดูแลที่เหมาะสมกับสภาวการณ์ของผู้เรียนรายบุคคล และลดนักเสพหน้าใหม่ ทั้งนี้การเข้าไปสุ่มตรวจในสถานศึกษาไม่ได้มองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเด็กแต่อย่างใด โดยเท่าที่รับรายงานวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่ถูกสุ่มตรวจนั้นผู้เรียนทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้เรายังเปิดเวทีให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดอีกด้วย” เลขาธิการกอศ.กล่าว