กรณี นางพิม สุวันนะโก สาววัย 30 ปี ชาว สปป.ลาว ที่มีอาการป่วยท้องโตจากโรคเนื้องอกในมดลูกหนักกว่า 20 กิโลกรัม ต้องใช้ชีวิตอย่างทรมานมานานนับ 10 ปี ทำการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดอุบลราชธานี และถูกส่งต่อไปยังสถาบันมะเร็งแห่งชาติไทย เมื่อปี 2558 กระทั่งมีชาวโซเชียลระดมกำลังบริจาคช่วยเหลือ กระทั่งทางคณะแพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะทำการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก และทำการวินิจฉัยโรคในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘น้องพิม’ ป่วยท้องโตเป็นเนื้องอก 20 โล ทนทุกข์ทรมานมานานนับ 10 ปี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เวลาประมาณ 22.00 น. (วันที่ 25 ก.ค.) ภายหลังแพทย์ทำการผ่าตัดนานกว่า 11 ชั่วโมง ก่อนนำตัวไปพักฟื้นต่อในห้องไอซียู หลังนำตัวเข้าทำการผ่าตัดท้องตั้งแต่ช่วง 11.00 น.วานนี้ (25 ก.ค.) หรือประมาณ 11 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่เปิดโอกาสให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ที่ห้องไอซียู โดยภาพหลังการผ่าตัดทางโรงพยาบาลยังไม่อนุญาตให้เผยแพร่

นางอัง พี่สาวคนป่วย อยู่ในอาการเครียด และอยากอยู่กับน้องสาวอย่างใกล้ชิด ไม่พร้อมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน จึงมียูทูบเบอร์สายบุญช่อง “สาวกึ่ม ใจสะหว่าง” และ “บ่าวพามี” มาให้ข้อมูลแทน โดยมีนักศึกษาคนไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ติดตามข่าวร่วมให้กำลังใจ สอบถามอาการของน้องพิมด้วย นางกงพ้าว หรือ สาวกึ่ม บอกว่า น้องพิมยังไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และยากระตุ้นความดัน ภาพที่เห็นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เพราะท้องแฟบแล้ว เบื้องต้นรู้สึกดีใจ อยากขอบคุณคณะแพทย์ แต่ยังมีความกังวลจนกว่าจะถอดเครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ จึงจะหมดห่วงว่า น้องพิมปลอดภัยแล้ว

สาวกึ่ม ยังอ้างข้อมูลจากการพูดคุยกับพยาบาลว่า น้องพิมเสียเลือดมากประมาณ 10 ลิตรครึ่ง จึงอยากประชาสัมพันธ์ถึงผู้มีจิตศรัทธาเข้าไปบริจาคเลือดทดแทนคลังเลือดกลางด้วย

ขณะที่นายพามี บอกว่า มี FC คนไทย และลาว ที่ไปอยู่ต่างแดนหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น โอนเงินมาช่วยค่ารักษาพยาบาลกว่า 120,000 บาท เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ก็เพิ่งจ่ายค่ายาราว 50,000 บาท

ทีมข่าวสอบถามนายแพทย์สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า อาการน้องพิม พ้นขีดอันตรายแล้วหรือยัง นายแพทย์สมศักดิ์ ไม่ได้ตอบตรงๆ เพียงแต่บอกว่า กำลังดีขึ้น แต่ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด และคงไม่ได้แถลงข่าว รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน