สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า ข้อมูลบนเว็บไซต์ของสำนักงานจัดการหนี้ของรัฐบาลฮังการี เผยให้เห็นว่า รัฐบาลบูดาเปสต์กู้เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ระยะเวลา 3 ปี จากธนาคารจีนหลายแห่ง เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา

“ข้อตกลงเงินกู้ 1,000 ล้านยูโร กับธนาคารพัฒนาจีน (ซีดีบี), ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (ไชนา เอ็กซิมแบงก์) และธนาคารแห่งประเทศจีน (บีโอซี) สาขาฮังการี จะสนับสนุนเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน รวมถึงโครงการอื่น ๆ” สำนักงานจัดการหนี้ของรัฐบาลฮังการี ระบุในแถลงการณ์

ทั้งนี้ การกู้ยืมดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 8 วัน หลังรัฐบาลบูดาเปสต์ประกาศเลื่อนการลงทุนสาธารณะจำนวนมากออกไป ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา และการระงับเงินทุนของสหภาพยุโรป (อียู) มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านยูโร (ราว 783,000 ล้านบาท) เนื่องจากฮังการีไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานของกลุ่ม

อนึ่ง นายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน ผู้นำฮังการี มักมีความขัดแย้งกับฝ่ายบริหารอียูในกรุงบรัสเซลส์ ในประเด็นเกี่ยวกับหลักนิติธรรม ซึ่งในขณะเดียวกัน เขาก็สนับสนุนนโยบายต่างประเทศแบบ “เปิดรับฝั่งตะวันออก” นับตั้งแต่เขากลับคืนสู่อำนาจเมื่อปี 2553 โดยแสวงหาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับจีน, รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย

แม้รัฐบาลบูดาเปสต์ระบุว่า ฮังการีได้รับประโยชน์จากความร่วมมือกับจีน อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขาดความโปร่งใสและการทุจริต โดยอ้างว่า โครงการต่าง ๆ มีแต่จะทำให้ “กลุ่มคนใกล้ชิดของออร์บาน” ร่ำรวยขึ้นเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP