สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า เครือข่ายข้างต้นถูกกล่าวหาว่าให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือ ด้วยการจัดหาสิ่งของสำหรับโครงการขีปนาวุธ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า การดำเนินการดังกล่าว ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) “อย่างร้ายแรง”

“การพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ ถือเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ และทำลายความมั่นคงในภูมิภาคและชุมชนระหว่างประเทศ” นายไบรอัน เนลสัน ปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐ ฝ่ายข่าวกรองการก่อการร้ายและการเงิน กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมกับเสริมว่า สหรัฐยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศเหล่านี้ รวมทั้งขัดขวางเครือข่ายการจัดซื้อที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าหลักของเทคโนโลยีเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบโต้สหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยระบุว่า รัฐบาลปักกิ่งคัดค้าน “การคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ผิดกฎหมาย”

“จีนปฏิบัติตามมติของยูเอ็นเอสซีอย่างเคร่งครัด, ดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และมุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งการคว่ำบาตรโดยปราศจากการพิจารณา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลีได้” นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า โครงการอวกาศ และโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ “ใช้เครือข่ายที่ครอบคลุม” ของตัวแทนจากต่างประเทศ ในการจัดหาสิ่งของที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรในคณะผู้แทนทางการทูต, สำนักงานการค้า, พลเมืองของประเทศที่สาม และบริษัทต่างชาติ.

เครดิตภาพ : AFP