คือ 1.กรณียุบพรรคกก้าวไกล ในฐานความผิดมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)วันที่ 7 ส.ค.67 เวลา 15.00น.ถ้าหากผลการตัดสินเป็นข่าวร้าย “ยุบพรรค” จะส่งผลให้แกนนำและกรรมการบริหาร จำนวน 11 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี สส.ก้าวไกล ต้องหาพรรคการเมืองใหม่ สังกัดภายใน 30 วัน และจะเกิดปรากฎการณ์ “งูเห่า ภาค 2” ที่จะไหลไปเพิ่มอำนาจการต่อรองให้ 3 พรรคการเมือง “เพื่อไทย – ภูมิใจไทย- พลังประชารัฐ”

และ2.กรณี สว.40 คน ยื่นคำร้องให้วินิจฉัยกรณี “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติหรือมีคุณสมบัติต้องห้าม ในวันที่ 14 ส.ค.67 เวลา15.00น. ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องสถานะ “นายกรัฐมนตรี” ถ้าหากศาลฯ ชี้มูลความผิด ต้องพ้นจากสถานะผู้นำรัฐบาล และ ครม.ต้องสิ้นสภาพตามไปด้วย แต่ถ้า “นายกรัฐมนตรี” รอดก็จะเป็นการปลดห่วงโซ่ตรวน ด่านแรก เพราะยังมีคดีใน ป.ป.ช. รออยู่ เพราะ “นายกรัฐมนตรี”ถูกร้องเรียนว่า แต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ รอเชือดอยู่

จึงไม่แปลกที่ช่วงนี้จะเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ขึงขังเหมือนเดิม หลัง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับ “สัญญาณพิเศษ” ขณะที่“สภาสูง” ก็มี “สหายหมง” มงคล สุรัจสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง สายตรง “นายใหญ่บุรีรัมย์” คว้าตำแหน่ง ประธานวุฒิสภา ด้วยคะแนน 159 เสียง ทำให้ วุฒิสภา 200 คน เป็น “สภาสีน้ำเงิน” ที่มีเสียงในมือ 150 -160 เสียง และยังมี สว.อิสระพร้อมไหล มารวมอีก 20 -22 คน ขณะที่ “สภาล่าง” พรรคภูมิใจไทย มี สส. 71 เสียง ยังไม่นับ “สส.ฝากเลี้ยง” อีกจำนวนหนึ่ง เอาเฉพาะตัวเลขที่ชัดเจน ณ เวลานี้ “พรรคภูมิใจไทย” มีเสียง สส. สว. ในมือขั้นต่ำ 221 เสียง โดยมี สว.ไม่ต่ำกว่า 150 เสียง และ สส. 71 เสียง

ทำให้ท่าทีของ “นายใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ดูอ่อนลง หันมาประนีประนอมอำนาจกับพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจาก พรรคภูมิใจไทย ลงมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ…. วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่ ครม. เป็นผู้เสนอเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งพรรคเพื่อไทยยอมถอยให้กับพรรคภูมิใจไทย แบบสุดตัว จากที่คำรามหักดิบนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปล่อยภาพสัมพันธ์ “ทักษิณ – อนุทิน” เที่ยวแรนโชชาญวีร์ รีสอร์ทหรู ของ “อนุทิน” จับไมค์ร้องเพลงชื่นมื่น – ออกรอบตีกอล์ฟ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 19-20 ก.ค.67 ที่ผ่านมา

จากนั้นในการประชุม ครม.วันที่ 23 ก.ค.มีรายงานข่าวว่า “นายกรัฐมนตรี” เรียก “อนุทิน – สมศักดิ์” เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เคลียร์ใจ ซึ่ง “อนุทิน” อ้างว่า “นายกรัฐมนตรี” ระบุว่าควรมีกฎหมาย พ.ร.บ.เข้ามาควบคุมกัญชา ทางฝั่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องไปหาทางออกตรงนี้ เพราะทางพรรคภูมิใจไทยก็มีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. คาอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคอื่นๆสามารถนำเสนอขึ้นมาประกบ เพราะท้ายที่สุด กฎหมายที่ผ่าน “สภาผู้แทนราษฎร” ก็ต้องไปที่“วุฒิสภา” เพื่อให้ความเป็นชอบ หรือไม่เห็นชอบต่อไป

ตรงนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรก หลังจาก “ดุลอำนาจ” ต่อรองทางการเมืองเปลี่ยนไป ภายหลัง “พรรคภูมิใจไทย” คุม “สภาสูง” แบบเบ็ดเสร็จ!!