เมื่อวันที่ 25 ก.ค. สำนนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกเผยสารเผยแพร่ว่า ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 ทำการจับกุมนายธนเทพ หรือประดับ สังข์ครุฑ บุคคลตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ จ.38/2565 ลงวันที่ 21 ก.ย. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็น “เจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหาย แก่รัฐ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157” โดยสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่ ต.เชียงเครือ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายธนเทพ หรือประดับ สังข์ครุฑ ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนโยธา องค์การบริหารส่วนตำบลดงหม้อทอง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร ได้ร่วมกับพวกทำการทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลดงหม้อทอง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างถนนไปแหล่งเกษตรกรรมของราษฎร โครงการซ่อมแซมปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน และโครงการซ่อมแซมบ้านพักข้าราชการและอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลดงหม้อทอง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร อันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อแสวงหาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบหนีและมีที่อยู่อาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบุคคลตามหมายจับหลบหนีไปทำงานที่จังหวัดชุมพร และกลับมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ร่วมวางแผนสืบสวนเฝ้าสังเกตการณ์จนพบตัวนายธนเทพ หรือประดับ สังข์ครุฑ ผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้นายธนเทพ หรือประดับ สังข์ครุฑ ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว นายธนเทพ หรือประดับ สังข์ครุฑ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวพร้อมกับได้แจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้นจึงได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เพื่อลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานและฝากควบคุมตัวไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร และนำตัวส่งสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการต่อไป.