นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 2567 ใหม่อยู่ที่ 1,700,000 คัน จาก 1,900,000 คัน ลดลง 200,000 คัน โดยเป็นการปรับเป้าเฉพาะยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงจาก 750,000 คัน เป็น 550,000 คัน
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจัยลบเรื่องหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90% ของจีดีพีประเทศ ขณะที่รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ การลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังลดลงมาหลายเดือนแล้ว คนงานมีรายได้ลดลง ประชาชนระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น หน่วยงานเศรษฐกิจหลายแห่งลดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลง สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์โดยเฉพาะรถกระบะ จำนวนแรงงานวัยทำงานน้อยกว่าเพื่อนบ้านจากอัตราการเกิดต่ำ จะทำให้นักลงทุนลังเลในการลงทุนเพราะเป็นสังคมสูงอายุ
โดยเห็นได้จากยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน มิ.ย. 2567 อยู่ที่ 47,662 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.04% เพราะรถกระบะที่ขายลดลงถึง 36.44% และรถอเนกประสงค์ที่ดัดแปลงมาจากรถกระบะ (PPV) ลดลง 49.98% จากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ สถาบันการเงินจึงระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อโดยเฉพาะรถกระบะและรถบรรทุก ส่งผลให้ 6 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 2567) มียอดขายรถยนต์ในประเทศ 308,027 คัน ลดลงจากปีก่อน 24.16%
“คาดว่ายอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของครึ่งปีหลังปี 2567 จะดีขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และ 2568 ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นของรัฐบาล”
ในส่วนของยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือน มิ.ย. 2567 ส่งออกได้ 89,071 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.28% จากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังเติบโต และส่งออกรถยนต์นั่งไฮบริด (HEV) เพิ่มขึ้นถึง 356.12% จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย แอฟริกา ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ภาพรวมส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 6 เดือ นอยู่ที่ 519,040 คัน ลดลงจากปีก่อน 1.85%
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ทั้งหมดเดือน มิ.ย. 2567 มีทั้งสิ้น 116,289 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.11% จากการผลิตขายในประเทศผลิตได้ 34,522 คัน ลดลงถึง 43.08% และยอดผลิตส่งออกผลิตได้ 81,767 คัน ลดลง 3.7% ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ 6 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น 761,240 คัน ลดลงจากปีก่อน 17.39%