เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่เรือนจำกลางขอนแก่น นายยุทธพร พิรุณสาร รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายจักร ลิ่มบุตร ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจ,ทหาร,ฝ่ายปกครอง ปปส.,ตชด,และชุดปฎิบัติการพิเศษเรือนจำกลางขอนแก่น เข้าทำการจู่โจมตรวจค้นเป็นกรณีพิเศษภายในเรือนจำกลางขอนแก่นทุกซอกทุกมุม พร้อมทั้งการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผู้ต้องขังทุกราย เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำและการลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามหรือสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในเรือนจำเด็ดขาด โดยชุดปฎิบัติการได้กระจายกำลังกันตรวจค้นเรือนนอนชาย-หญิง,พื้นที่โรงอาหาร,พื้นที่ฝึกฝีมือ,แดนแรกรับ,ห้องน้ำ,โรงครัวรวมไปถึงสถานฝึกปฎิบัติงานต่างๆ อย่างเข้มงวด ซึ่งผลการตรวค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งของต้องห้ามแต่อย่างใด

นายจักร ลิ่มบุตร ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวว่า การจู่โจมตรวจค้นเรือนจำนั้นชุดปฎิบัติการพิเศาจดำเนินการตรวจค้นทุกวัน ตามแผนปฎิบัติการที่กำหนดไว้ ขณะที่การตรวจค้นพิเศาหรือการสนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ภายนอกเข้าทำการตรวจค้นโดยไม่ได้แจ้งให้กับผู้ต้องขังได้ทราบตามแผนปฎิบัติงานที่กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งผลการปฎิบัติแม้จะไม่พบสิ่งของต้อห้ามหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่ความเข้มงวดในรูปแบบการดำเนินงานของเรือนจำกลางขอนแก่น นั้นเด็ดขาด แน่นอนและประสานการทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะกับการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงที่คาดว่าจะมีการลักลอบเข้ามาภายในเรือนจำ ทั้งบริเวณประตุทางเข้า รวมทั้งพื้นที่รอบริมรั้วกำแพง

“คนเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่จะนำสิ่งของต้องหามเข้ามาภายในเรือนจำดังนั้นจะเห็นว่ามาตรการคุมเข้มในการเข้ามาภายในเรือนจำแยกส่วนชัดเจนระหว่างผู้ต้องขังที่ได้รับโทษเด็ดขาด,เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานหรือผุ้ที่มาติดต่อราขการ ทุกคนจะต้องรับการตรวจตามระเบียบที่กรมราชทัรพ์กำหนด ขณะที่พื้นที่ริมรั้วกำแพง ได้มีการจัดทำป้อมหอสูง โดยมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ประจำทั้ง 4 มุม ในระดับความสูง 8 เมตรตรวจเข้มทุกความเคลื่อนไหวทั้งภายในและภายนอก ขณะที่ช่วงเวลากลางคืนยังคงมีการจัดสายตรวจเดินเท้า ตรวจโดยรอบรั้วกำแพงและบริเวณภายในเรือนจำทุกแดน โดยชุดตรวจจะเดินตรวจตราทุกชั่วโมงตามมาตรการคุมเข้มที่กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดไว้”

นายจักร กล่าวต่ออีกว่า ขณะเดียวกันยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มาทำการตรวจบริเวณด้านหน้าและโดยรอบเรือนจำ ตามความร่วมมือร่วมระหว่างหน่วยงาน เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและปัญหาการลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามหรือสิ่งของที่ผิดกฎหมายเข้ามาภายในเรือนจำ ตลอดทั้งยังคงเป็นการสร้างความโปร่งใสในระบบบริหารจัดการภาครัฐต่อสายตาประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรและกรมราชทัณฑ์ต่อไป