เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังไปปรากฏตัวที่พรรคพลังประชารัฐ โดยนำกุ้งมังกรไปให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ว่า ยืนยันว่าไม่มีนัยทางการเมือง ไปธุระส่วนตัวทางคดีของตัวเอง ซึ่งตนลงไปหลังการเปิดตัวสมาชิกพรรคใหม่ และตนก็ปฏิเสธสื่อให้สัมภาษณ์ เพราะไม่ได้ไปภารกิจการเมือง เป็นการถามกันเชิงล้อเล่นมากกว่าว่าอนาคตจะย้ายพรรคมาพลังประชารัฐหรือไม่ ตนขอตอบโดยหลักการธรรมชาติว่าในอนาคตยังไม่รู้ แต่วันนี้ยังไม่ย้าย ยืนยันว่าวันนี้ยังอยู่พรรคภูมิใจไทยเหมือนเดิม และตนให้ความเคารพทุกพรรค ในอดีตก็เคยอยู่พรรคไทยรักไทย
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ โดยส่วนตัวตนไม่มียุทธศาสตร์หรือลับลมคมใน แต่ถ้าจะไปอย่างไรก็ต้องบอกกัน และจะไปอย่างมีเหตุผล วันนี้ยืนยันยังไม่ไป ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่คิดถึงเรื่องการย้ายพรรค ยังมีความสุขอยู่ อยู่ที่เดิมยังทำงานให้กับภูมิใจไทยเหมือนเดิม ตนเป็น สส. ที่น่าจะติดอันดับ 1 ใน 5 ที่ยื่นกฎหมายมากที่สุดในสมัยนี้ ดังนั้นการที่จะไปพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย ตนคิดว่าไปได้โดยชอบธรรม ไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง และเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนก็รับสายโทรศัพท์แทบไม่ทัน ขอบคุณสื่อที่ทำให้คนจดจำสินค้าตัวอย่างของภูมิใจไทยคนนี้
เมื่อถามว่า มีข้อขัดข้องใจอะใรในพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรสักอย่าง กินได้ นอนหลับ ส่วนที่หลายคนตั้งคำถามถึงการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ เพราะคาดหวังในตำแหน่งฝ่ายบริหารหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าไม่ ตนไม่เคยเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรี แม้ตนจะสู้ศึกได้ สส. 3 คน ใน จ.กระบี่ ขอยืนยันว่าตนไม่อยากเป็นรัฐมนตรี ไม่เคยไปถามพรรคเลยว่าเมื่อไหร่จะให้ตนเป็นรัฐมนตรี วันนี้พรรคให้เป็นประธาน กมธ.แรงงาน ก็มากพอแล้ว การเป็นรัฐมนตรีต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ความพร้อมหลายเรื่อง เราก็ต้องดู ไม่ล้าสมัยแล้ว บางคนรีบเป็น แต่ไม่กี่เดือนก็ไม่ควรเป็น และหากเป็นไม่ตรงกระทรวงที่เราถนัด ไม่มีผลงาน เป็นเสร็จแล้ว เดี๋ยวก็มีการยุบสภา ก็ต้องดูด้วย
“ขอยืนยันว่าผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยไม่ห่วงเพราะเข้าใจดี เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนออกมาผมก็คุยกับครูใหญ่ หรือ นายเนวิน ชิดชอบ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ก็สอบถามถึงเรื่องที่ไปพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งผมก็ชี้แจงไป ทุกคนเข้าใจดี เพราะผมไม่เคยเรียกร้องพรรคและไม่เคยสร้างปัญหาให้พรรคเดือดร้อน เพียงแต่ผมมีเพื่อนในพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐเยอะ ถ้านับจำนวนที่ผมรู้จัก สส.เพื่อไทย มากกว่า สส.ภูมิใจไทย ด้วยซ้ำ” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว.
