เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงเปิดตัวนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่เข้ามาสมัครสมาชิกพรรค พปชร.ว่า ตนกับนายวันสนิทกันตั้งแต่ตอนที่แกเป็น สส.ก็คุยกันมาตลอด ซึ่งคนที่เป็นพี่เป็นน้องกันเวลาเดือดร้อนก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ และทางการเมืองตนคิดว่า นายวันมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นนักการเมืองให้พี่น้องประชาชน ซึ่งเรื่องนี้เองผมคิดว่า วินๆ ตัวนายวันเองก็ดีใจ และ พล.อ.ประวิตร เองก็ดีใจ ฉะนั้นดีลนี้ตนถือว่า เป็นดีลที่ครบถ้วน

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญจะได้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มาด้วยทันทีที่พรรค เพื่อไทย ขับเมื่อไหร่ ท่านก็จะมา ซึ่ง ร.ต.อ. เฉลิม อยู่กับใครก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่กับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็ได้เป็นนายกฯ อยู่กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ได้เป็นนายกฯ อยู่กับนายสมัคร สุนทรเวช ก็เป็นนายกฯ อยู่กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นนายกฯแล้ววันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม มาอยู่กับ พล.อ.ประวิตร ก็คิดเอาเองว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามถึง การที่นายวันระบุว่า ไม่มีพรรคไหนกล้ารับ นายสามารถ  กล่าวว่า มันเป็นแรงอาฆาตหรือเปล่า ตนก็ไม่ทราบ แต่สำหรับ พล.อ.ประวิตร ท่านเปิดกว้าง ท่านไม่เกรงกลัวใคร แล้วใครจะมาห้ามท่านก็ไม่ได้ ซึ่งวันนี้ร.ต.อ.เฉลิม ได้พูดว่า คงจะมีคนที่อัดอั้นและอยากจะทำ การเมืองต่อ แต่ไม่อยากอยู่พรรคเพื่อไทย ก็อาจจะมาอยู่กับ ร.ต.อ.เฉลิม แล้วก็มาอยู่ที่ พปชร.โดยวันที่ 23 ก.ค.นี้  ร.ต.อ.เฉลิม ก็ได้ชวนตนไปที่บ้านท่านริมคลอง เพื่อเข้าไปร่วมฟังอดีต สส. อดีตผู้สมัคร ที่อยากทำงานการเมืองต่อ

นายสามารถ กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐเราเปิดกว้าง อย่างที่มาสมัครวันนีั ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ก็เป็นอดีต ส.ส.กทม.พรรคอนาคตใหม่ ที่ได้คะแนนอันดับ 1 ใน กทม.และอีกท่านก็คือ  นายพยม พรหมเพชร ซึ่งเมื่อก่อนเคยอยู่พรรคพลังประชารัฐ และได้ที่ 1 จังหวัดสงขลา ก่อนจะย้ายไปอยู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ย้ายกลับมาอยู่กับเรา เรียกว่า เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ ส่วนอีก 2 ท่านก็เป็นอดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า มีมาจากทุกพรรค ไม่ได้มีแต่เพื่อไทยเท่านั้น

นายสามารถ กล่าวต่อด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐต้องการที่จะหาคนทำงานเพื่อประชาชน และใครที่อยากจะทำงานการเมืองก็มาร่วมกันทำได้ โดย พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าและเจ้านายที่ใจกว้าง เปิดกว้างและก็ให้โอกาสทุกคน ไม่ได้ปิดกั้นหรือยึดติดกับอดีต อย่างบางคนเคยต่อว่าท่านมาก่อน หรือว่าเคยทำงานกับพรรคตรงข้ามมาก่อน ท่านก็เปิดกว้าง ถ้าใครมีอุดมการณ์เดียวกันก็มาร่วมกันทำงาน เพราะว่าพรรคการเมืองมันต้องใหญ่ขึ้น พรรคการเมืองมันไม่ใช่เรื่องของบุคคล แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติและประชาชน

เมื่อถามว่า การที่นายวันเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นการทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยมากขึ้นหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า ตนมองว่าคนทำพรรคการเมืองมันต้องใจกว้าง ใครจะทะเลาะกับใครถือเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชนก็ต้องให้โอกาส พล.อ.ประวิตร ท่านก็แยกแยะเรื่องนี้ได้ จึงให้โอกาสนายวันในการมาทำงานให้พรรค

“การมาของนายวันครั้งนี้มาแบบใหญ่เลย ไม่ได้มาแบบตัวเล็กๆ พล.อ.ประวิตรได้มอบหมายให้นายวันดูแล กทม.แทนนายสกลธี ภัททิยกุล สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ลาออกไป เพราะเห็นศักยภาพและเห็นค่าในตัวของนายวัน ทั้งๆที่นายวันขอดูแลแค่ฝั่งธนฯ  ไม่ได้ขอดูแล กทม.“นายสามารถ กล่าว.